"เรืองไกร" ยื่นหนังสือ "กกต." สอบปม "พิธา" ถือหุ้นไอทีวีอีกครั้ง รวมทั้งให้ตรวจสอบกรณี การลงนามเอ็มโอยูของทั้ง 8 พรรคร่วมรัฐบาลเข้าข่ายความผิด ม.28 ถึงขั้นถูกยุบพรรคด้วย

24 พ.ค. 66 ที่สำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้ง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมายื่นหนังสือถึง กกต. ให้ตรวจสอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีการถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) และกรณีการเซ็นเอ็มโอยูของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ที่เซ็นกันไปในวันที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งการเดินทางมาในวันนี้นายเรืองไกร ใส่กางเกงขาสั้นสีส้ม และเสื้อเชิ้ตสีสันฉูดฉาดเหมือนเดิม

 

นายเรืองไกร บอกว่า การมา กกต. ในวันนี้ ตัวเองมาส่งเอกสารเพิ่มเติมต่อ กกต. กรณีการถือหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ของคุณพิธา ซึ่งวันนี้ได้เอาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นย้อนหลัง 18 ปี ตั้งแต่ปี 2549-2566 ให้ กกต. รวมทั้งงบกำไรและขาดทุนในเว็บรายงานประจำปีของไอทีวี เพื่อให้ กกต. เห็นว่า บริษัท ไอทีวี เป็นบริษัทจำกัดมหาชนจริง ซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์จะเน้นไปที่กฎหมายแพ่ง ตาม พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด ปี 2535 เพื่อให้ ก.ก.ต. เห็นว่าการที่คุณพิธามีชื่อ-นามสกุล จากพระราชบัญญัติดังกล่าวถือว่าถูกต้อง นอกจากนี้นายเรืองไกรยังบอกว่าเอกสารที่ตัวเองเอามาไม่ได้มีผู้อยู่เบื้องหลัง เอกสารที่เอามาเป็นหลักฐานตัวเองใช้เงินส่วนตัวจ่ายให้กับกรมธุรกิจการค้าซึ่งเป็นการได้มาอย่างถูกต้อง

 

ต่อมาเรื่องการเซ็นเอ็มโออยู่ของพรรคการเมืองทั้ง 8 พรรค เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่มีการเซ็นเอ็มโอยูทั้งหมดม4 หน้า 23 ข้อ โดยหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค พอตัวเองเห็นลายเซ็นก็คิดว่าการกระทำดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 28 ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ.2560 ที่ระบุว่า “ ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอม หรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกของพรรคกระทำการอันเป็นการควบคุมครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมือง หรือสมาชิกขาดอิสระไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม”

 

โดยเรื่องนี้นายเรืองไกร บอกว่า เป็นเพียงการตั้งคำถามส่วนตัว หาก กกต. ตรวจสอบแล้วไม่พบมูลความผิดตามที่ตัวเองสงสัย ตัวเองก็เคารพในสิ่งที่ กกต. พิจารณา แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเค้าขายการกระทำความผิดและเห็นสมควรให้มีการยุบพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรคนี้เนื่องจากใครเป็นผู้เซ็นเอกสารดังกล่าวก็ถือว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดด้วยทั้งสิ้น อีกทั้งเอกสารเอ็มโออยู่ฉบับนี้ถูกเซนด้วยหัวหน้าพรรคการเมืองทั้ง 8 พรรค จึงถือได้ว่าเป็นความผิดร่วมกัน

 

ขณะที่วันนี้ระหว่างที่คุณเรืองไกลมายื่นหนังสือ ขาประจำอย่างนายวรัญชัย โชคชนะ ก็ได้เดินทางมาพร้อมกับกระดาษเขียนข้อความระบุว่า “ตนเองสนับสนุนคุณพิธา ให้เป็นนายกรัฐมนตรีตามเสียงข้างมากของประชาชน” และเปรียบเทียบเหตุการณ์ว่า “อย่าให้เหมือนสมัครทำกับข้าว”