หนุ่มใจบางโกรธพ่อไม่รักกระทืบดับ ถูกจับยังปากแข็งอ้างป่วยตาย

เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 22 พ.ค.2566 นายบุญเลี้ยง อายุ 71 ปี ถูกลูกชายติดเหล้าติดยาเสพติด ทั้งถีบ ใช้มือตี เหวี่ยงลงพื้นและเตะพ่ออีก 2 ครั้งจนสลบ ก่อนที่ญาติๆ จะเห็นเข้ามาช่วยแต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านพัก ต.ขนวน อ.หนองนาคำ จ.ขอนแก่น

ผู้ก่อเหตุคือลูกชาย ชื่อ นายมนตรี อายุ 37 ปี ตำรวจไปจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา นางวี อายุ 67 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นแม่ของผู้ก่อเหตุ บอกว่า ที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าลูกชายยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ แต่ลูกชายจะดื่มเหล้าเมาทุกวัน มักจะพูดทำนองน้อยใจ คิดไปต่างๆ นานาว่าพ่อแม่ไม่รัก รักพี่มากกว่าตัวเอง โดยวันเกิดเหตุ หลังจากที่กินข้าวเย็นเสร็จ ตนเองและสามีได้เรียกลูกๆ มานั่งคุยกัน เพื่อชี้แจงเงินส่วนที่ขายรถกระบะได้ประมาณ 40,000 บาท ตนเองก็บอกลูกชายว่า เงินที่ขายรถได้จะแบ่งไปใช้หนี้ของครอบครัวที่ยืมมาส่วนหนึ่งประมาณ 15,000 บาท และใช้หนี้ให้ครอบครัวลูกชายที่ไปยืมมาอีก 5,000 บาท และแบ่งให้ลูกชายไว้ใช้จ่ายส่วนตัว 3,000 บาท แบ่งให้พี่สาว 2,000 บาท ส่วนที่เหลือตนเองจะเอาเข้าบัญชีไว้ เพื่อเก็บไว้ทำนาฤดูกาลถัดไป แต่ในขณะที่ตนเองกำลังชี้แจงเรื่องเงิน นายมนตรีลูกชายก็ไม่พอใจ และได้ต่อว่าพ่อกับแม่ว่าลำเอียงให้เงินแต่พี่สาว

ตนเองนึกว่าลูกชายเข้าใจดีแล้ว ก่อนที่สักพักนายมนตรีจะลุกออกจากบ้าน ตนเองและสามีจึงได้เดินตามหลังลูกชายออกมา เพราะนายมนตรีจะเดินไปหาเรื่องพี่สาว ก่อนที่นายมนตรีจะถามว่าตามมาทำไม ตนเองจึงได้แกล้งบอกว่าจะมาดื่มน้ำ

จากนั้นตนเองหันมาอีกที เห็นนายมนตรีใช้มือล็อกคอพ่อตนเอง และใช้ขาเกี่ยวพ่อ ก่อนจะเหวี่ยงพ่อลงกับพื้นถนนคอนกรีตอย่างแรง จนพ่อกลิ้งตกถนนไปอีกฝั่งแล้วสลบไป แต่ตนเองไม่เห็นตอนที่ลูกชายเตะ ต่อยพ่อ เพราะได้รีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้าน แต่สุดท้ายสามีก็เสียชีวิต

ด้านนายมนตรี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองกำลังสีข้าวหลังจากที่เก็บเกี่ยว และยอมรับว่า ดื่มเหล้าขาว 1 ขวดใหญ่คนเดียวตั้งแต่เช้าจนค่ำ แต่ไม่ได้เสพยาเสพติด จากนั้นก็ไปรับภรรยากลับมาจากขายของที่ตลาดนัด กลับมาบ้านก็มีปากเสียงกับพ่อ เรื่องที่ก่อนหน้านั้นประมาณ 1-2 วัน ตนเองเห็นพ่อได้เอาเงินให้พี่สาว 25,000 บาท แต่ไม่ได้แบ่งให้ตนเองและลูกคนอื่นด้วย ทั้งที่ตนเองก็เลี้ยงดูพ่อแม่เหมือนกัน และทำงานหนักเหมือนกัน

นายมนตรี ยังอ้างว่า หลังจากมีปากเสียงกันกับพ่อ พ่อได้ใช้กำปั้นทุบมาที่หลังตนเองก่อน จึงเกิดการชุลมุนชกต่อยกัน โดยตนเองไม่ได้เตะหรือถีบพ่อแต่อย่างใด และไม่ได้คิดจะทำร้ายพ่อจนเสียชีวิต แต่พ่อเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัว

ยอมรับว่าน้อยใจพ่อกับแม่ที่รักลูกไม่เท่ากัน ให้เงินแต่พี่สาวใช้ แต่ไม่เคยแบ่งให้ตนเอง ทั้งที่ตนเองก็เป็นลูกเหมือนกัน

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองสำนึกผิดแล้ว อยากขอโทษพ่อ ขอโทษแม่และญาติๆ หากญาติอนุญาตตนเองอยากจะไปกราบขอขมาศพพ่อเป็นครั้งสุดท้าย

ขณะที่เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายผู้อื่นให้ถึงแก่ความตาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย

ตีพ่อตาย น้อยใจไม่ถูกรัก