เดือด"ชลน่าน"ดีดปาก "ศิธา"หยุดแซะย้ายขั้ว ปิยบุตรขวางยก"ประธานสภา"ให้คนอื่น

อีกปมประเด็นร้อนทางการเมือง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา YouTube ข่าวสด โดยข่าวสดออนไลน์ จัดรายการ "อยากมีเรื่องคุย" ตอน "เจาะ MOU 8 พรรค เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล" เชิญ 3 พรรคใหญ่ที่ร่วมเซ็นMOU มาร่วมพูดคุย นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ

บางช่วงบางตอนของการสนทนา มีประเด็นที่ นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ถามวานนี้ อยากให้ 8 พรรคร่วมทำ "MOUแบบแอดวานซ์" คือจับมือกันไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือ ฝ่ายค้าน ซึ่ง นพ.ชลน่าน บอกว่า ประเด็นนี้ตอบไปแล้ว จริงๆ คุณศิธา ก็เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคร่วมที่จะก่อตั้งรัฐบาลร่วมกัน ตนไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่กับคำถามนี้ เพราะคุณศิธา ไม่ได้เป็นสื่อ ทั้งยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ตนถือว่าเสียมารยาทมาก ฝากคุณหญิงสุดารัตน์ไปตักเตือนด้วย

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยย้ำว่า สิ่งที่คุณศิธา ถามว่าจะจับมือเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน เป็นไปไม่ได้ เพราะเราถือเสียงข้างมาก ตราบใดที่เกาะเกี่ยวอยู่แบบนี้ ไม่ได้เป็นฝ่ายค้านหรอก ใครจะมาตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแข่งกับเรา คำถามนี้เหมือนพุ่งเป้ามาที่พรรคเพื่อไทย ที่ถูกสังคมกระหน่ำซ้ำ ซึ่งตนก็พูดชัดเป็นครั้งที่ 501 ว่าจับมือก้าวไกล พร้อมย้ำว่า เอาความเป็นจริง พรรคที่มีเสียง 293 เสียง คือ เพื่อไทย + ก้าวไกล ไม่มีทางเป็นฝ่ายค้านหรอก เป็นรัฐบาลได้อย่างเดียว อย่ามโน

คุณหญิงสุดารัตน์ ก็บอกว่า คุณศิธา เป็นคนมีความตั้งใจที่อยากให้ฝั่งประชาธิปไตยจับมือให้แน่น และเอาชนะฝ่ายเผด็จการให้ได้ในรอบนี้ สิ่งที่นำเสนอก็ออกมาจากความรู้สึกที่คนส่วนใหญ่มองว่าถึงเวลาแล้ว และเป็นโอกาสที่ใกล้ที่สุด ที่จะเอาเผด็จการออกไป ซึ่งที่คุณศิธา ถามขึ้นมาเป็นความกังวล และมุ่งมั่น และถ้าคำถามนี้ทำให้เกิดความไม่สบายใจให้กับเพื่อไทย ก็ขออภัยด้วย คุญหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า เจตนาของคุณศิธา แค่อยากให้ฝั่งประชาธิปไตยรวมตัวกันให้แน่น อยากให้เอาชนะเผด็จการและจบเสียทีเรื่องการสืบทอดอำนาจ

ขณะเดียวกันนายปิยบุตร แสงกนกกุล โพสต์ข้อความใจความโดยรวมว่า “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ตำแหน่งที่พรรคก้าวไกลเสียไปไม่ได้เป็นอันขาด

 

เมื่อไล่เรียงไทม์ไลน์รัฐบาลพ้นตำแหน่ง นายวิษณุ​ เครืองาม​ รองนายกรัฐมนตรี​ ฝ่ายกฎหมาย บอกว่า วันที่ 20 ก.ค. 66 วันสุดท้ายที่ให้ส.ส.รายงานตัว และจะมีการเปิดประชุมรัฐสภา 24 ก.ค. 66 ก่อนที่จะเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร 25 ก.ค.66 ขณะเดียวกันในวันที่ 3 ส.ค. 66 เลือกนายกรัฐมนตรี

หากแต่งตั้งสำเร็จ วันที่11ส.ค.66 พลเอกประยุทธ์ก็สิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรี

ถอยอีกก็แพ้!