แฉหนุ่มหลอนยา ฆ่ายายหมกบ่อปูนพลิกประวัติไล่ฆ่า 3 คนเลือกเหยื่อฟันหัวแบะ

ที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ลูกชายได้ตามหาแม่วัย 76 ปี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 พ.ค. 2566 แต่หาไม่เจอ เลยถามกับหลาน บอก “ไม่ต้องตามหาแล้ว เพิ่งฆ่าแล้วเอาไปทิ้งหลังบ้าน”

เมื่อเข้าไปดูที่หลังบ้านก็พบร่างของนางคำพร อายุ 76 ปี ตายอยู่ในบ่อปูน สภาพถูกแทง 6 แผล ทั้งที่ศีรษะ ไหล่ กกหูซ้าย และลำคอ ซึ่งคนที่ลงมือฆ่าเป็นหลานแท้ๆ ชื่อนายเอกชัย ซึ่งมีอาการทางจิต

นายอนุรักษ์ ลุงของผู้ก่อเหตุ และลูกชายของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ปกติที่บ้านหลังเกิดเหตุ จะอยู่ด้วยกัน 3 คน คือตัวเอง, ผู้เสียชีวิต และผู้ก่อเหตุ เมื่อคืนนี้ตัวเองไปเที่ยวนอกบ้าน กลับมาบ้านก็เมาจึงไม่มีสติ ไม่รู้ว่านางคำพรถูกฆ่าตั้งแต่เมื่อไหร่

กระทั่งเมื่อเช้าตื่นมาไม่เห็นแม่ จึงถามนายเอกชัยว่า “เห็นยายคำพรบ้างไหม” นายเอกชัย ก็ตอบหน้านิ่งว่าไม่เห็น

จากนั้นตัวเองและนายเอกชัย (ผู้ก่อเหตุ) ก็ขี่รถมอเตอไซค์พ่วงข้างไปที่ไร่มันมันสำปะหลัง ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 8 กิโลเมตร พอถึงไร่มันสำปะหลัง ตัวเองได้ถามนายเอกชัยอีกรอบว่า เห็นยายบ้างไหม เขาก็ตอบมาอีกว่า “ไม่เห็นเลย”

ตัวเองจึงโทรศัพท์ไปถามหลานสาวที่บ้านอีกคนหนึ่ง ให้ไปดูยายที่บ้านให้หน่อย ว่าเห็นยายคำพรอยู่ที่บ้านบ้างไหม ระหว่างที่ตัวเองคุยโทรศัพท์กับหลานสาวนั้น นายเอกชัยก็พูดแทรกขึ้นมา พร้อมทำสีหน้าท่าทางหัวเราะว่า “ไม่ต้องตามหาหรอก ผมฆ่ายายเอาไปทิ้งหลังบ้านแล้ว” ทีแรกตัวเองก็คิดว่าหลานชายพูดเล่น กระทั่งขี่รถกลับไปดูที่หลังบ้าน แล้วเปิดท่อปูนที่มีผ้าคลุมดู ก็เห็นขาของนางคำพร จากนั้นจึงโทรแจ้งตำรวจ

สำหรับนายเอกชัย หลานชายตัวเองนั้น เป็นผู้ป่วยจิตเวช รับการบำบัดมา 3 ปี แต่ก็กลับมาเสพอีก เขาก็หาซื้อตามหมู่บ้าน เม็ดละประมาณ 30 บาท

สาเหตุก็มาจากเรื่องยาที่เสพนี่แหละ เพราะที่ผ่านมา นางคำพรก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับนายเอกชัยมาก่อน จะมีแค่ดุด่าตามประสายายหลานเท่านั้น

โดยเมื่อช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ ตัวเองก็เห็นนายเอกชัยเขามีอาการแปลกๆ คือจะเปิดโทรทัศน์ดูแล้วก็นั่งยิ้ม นั่งหัวเราะอยู่คนเดียว ไม่แน่ใจว่า เขาน่าจะฆ่าแม่ตัวเองตัเงแต่ช่วงเช้าของเมื่อวานแล้วหรือไม่ พอฆ่าเสร็จก็มานั่งยิ้มดูโทรทัศน์สบายใจ

ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้กล้องวงจรปิด เวลา 07.04 น.วันเกิดเหตุ หลังจากที่นายเอกชัยฆ่ายายของตัวเองแล้ว เจ้าตัวก็ได้นั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซต์พ่วงข้างไปที่ไร่มันสำปะหลัง ด้วยท่าทีปกติ 

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวแก้ว (นามสมมติ) ญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายเอกชัยก่อเหตุ ก่อนหน้านี้ นายเอกชัยพยายามฆ่าญาติๆ มาแล้วถึง 3 ราย

รายที่ 1 เป็นผู้ชาย ถูกใช้มีดฟันทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อ 6 ปีที่แล้ว

รายที่ 2 เป็นผู้ชาย ก็ถูกนายเอกชัยใช้มีดฟันประมาณ 2 ปีที่แล้ว

รายที่ 3 ชื่อ นายไพวัลย์ (เป็นญาติเอกชัย) ถูกนายเอกชัยเอามีดพร้าฟันหัว จนต้องเย็บ 18 เข็ม

และนางคำพร รายล่าสุดเป็นรายที่ 4 ครั้งนี้ถึงกับเสียชีวิต

โดยนายไพวัลย์ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อปี 2565 ขณะที่ตัวเองนั่งอยู่ในบ้าน จู่ๆ นายเอกชัยหลานชายก็หลอนยา เอามีดพร้ามาฟันศีรษะด้านขวาของตัวเองจนอาการสาหัส ต้องเย็บถึง 18 แผล ยอมรับว่า นายเอกชัยก่อเหตุพยายามฆ่าคนมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงตัวเองด้วย ก็อยากให้ตำรวจลงโทษให้ถึงที่สุด เพราะถ้าปล่อยเขาออกมาก็มาสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวและชาวบ้านอีก

ช่วงหนึ่งระหว่างควบคุมตัวทีมข่าวได้มีโอกาสถามนายเอกชัย ถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ และอีกหลายคำถาม แต่เจ้าตัวตอบสั้นๆ แค่ว่า "ฆ่ายายตอนเช้าของเมื่อวาน" ถามว่ามีอะไรอยากจะขอโทษคุณยายที่เสียชีวิตหรือไม่ เจ้าตัวก็ตอบว่า “ไม่” ซึ่งขณะคุมตัวมาห้องขังนั้น ก็ได้กลิ่นคาวเลือดมาจากร่างกายของผู้ก่อเหตุชัดเจน

ขณะที่ นางสาวแก้ว ยังเปิดเผยอีกว่า ได้เข้าไปพูดคุยกับนายเอกชัยที่ห้องสืบสวน เขาก็บอกว่า ฆ่ายายคำพร ตั้งแต่เช้าของเมื่อวานนี้ พฤติการณ์คือ เขาใช้ท่อนไม้ตีหัวยายคำพรจนล้ม จากนั้นก็ใช้มีดฟันท้ายทอยยายอีก 3 ครั้ง แล้วก็อุ้มร่างยายคำพรไปไว้ในท่อปูนหลังบ้าน ก่อนเอาผ้าคลุมร่างไว้ ส่วนสาเหตุนั้น ก็คาดว่าน่าจะมาจากอาการหลอนยา

หมกศพยาย ไล่ฆ่าอีก3