ผู้สมัครสส.ไทยสร้างไทย จัดเต็มแต่ง Drag Queen ขอคะแนนชาวบางซื่อ ชวนทลายภาพเหมารวม "แต่งหญิงไม่ใช่เครื่องแบบกะเทย"

วันนี้ 1 พฤษภาคม นายทวีชัย วงศ์ไพโรจน์กุล รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ที่ควบบทบาทคณะทำงานด้านความเท่าเทียมทางเพศและเสมอภาคทางสังคม และผู้สมัครส.ส. เขต 7 บางซื่อ ดุสิตเฉพาะแขวงถนนนครไชยศรี จัดเต็มชุดแดร็กควีน (Drag Queen) พร้อมด้วยกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงจากประชาชนในเขตบางซื่อ นายทวีชัยกล่าวว่า การที่ตนแต่ง Drag Queen ลงพื้นที่ในครั้งนี้นั้นไม่ได้ต้องการสร้างสีสัน ไม่ได้ต้องการสร้างกระแส แต่อยากชวนทลายภาพเหมารวมจากคนในสังคมที่มีต่อกลุ่ม LGBTQ+ ที่มักจะมีชุดแนวคิดว่า ถ้าเป็นกะเทยต้องอยากแต่งหญิงบ้าง เป็นทรานส์แมนต้องแต่งตัวแบบผู้ชายเท่านั้น หรือตนเองเป็นเกย์ (Gay) ก็มักถูกจดจำว่าต้องห้ามออกสาว แต่เมื่อไม่ได้แสดงออกไปตามนั้นก็มักถูกตั้งคำถามว่า “ต้องอยากเป็นผู้หญิงแน่เลย” “อยากแต่งหญิงแน่เลย” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นแม้กับคนที่ยอมรับเพศหลากหลายก็อาจไม่ได้คำนึงถึงการตีตรากลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในมิตินี้ ตนอยากสื่อสารว่าเพศหลากหลายไม่มีเครื่องแบบกำกับ อัตลักษณ์ทางเพศไม่ควรถูกกำหนดด้วยเสื้อผ้า เช่นเดียวกับที่ผู้ชายก็สามารถสวมใส่กระโปรง หรือผู้หญิงก็ควรถูกอนุญาตให้สวมกางเกงในสถานที่ราชการได้เช่นกัน อยากให้เคารพกันที่ตัวตนแท้จริง เช่นที่นายทวีชัยก็เชื่อมั่นและยืนยันกับชาวบางซื่อตลอดการลงพื้นที่ว่า “ไม่ว่าจะแต่งตัวอย่างไร สวมใส่อะไร เบสท์ก็ทำงานได้และทำงานจริง”

 

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากพี่น้องประชาชนในเขตบางซื่อ โดยเฉพาะบริเวณตลาดเตาปูนและถนนสายไม้ ซึ่งในระหว่างทางได้มีคุณแม่ท่านหนึ่งออกมาต้อนรับนายทวีชัย พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาว่า  “ชอบมากเลย เมื่อก่อนลูกแม่เป็นแบบนี้ ตอนแรกแม่ก็ไม่เข้าใจ แต่เดี๋ยวนี้แม่เข้าใจในตัวเขามากขึ้นแล้ว ขอบคุณเบสท์มากที่ทำให้คนเข้าใจ ยอมรับความหลากหลายทางเพศและลุกขึ้นต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น” และยังมีผู้มีความหลากหลายทางเพศที่เข้ามาถามถึงนโยบายของพรรคเกี่ยวกับสวัสดิการของกลุ่ม LGBTQ+ ซึ่งนายทวีชัยก็ได้ย้ำถึงนโยบายความเท่าเทียมทางเพศของพรรคไทยสร้างไทย อาทิ การรับรองอัตลักษณ์บุคคล ที่ให้ความสำคัญกับคำนำหน้านาม สมรสเท่าเทียม สวัสดิการข้ามเพศ ฯลฯ ที่จะสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้นายทวีชัย เชื่อว่านี่จะเป็นก้าวเล็ก ๆ ที่ทำให้คนในท้องที่ได้พูดคุยกับนักการเมืองที่หลุดออกจากภาพจำเดิมๆ ได้ และสังคมเข้าใจในเจตนาของตนแน่นอน