"บิ๊กโจ๊ก" เรียกประชุมทีมคดี "แอม ไซยาไนด์" หาว่ามีใครเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ยันป่วยจิตไม่มีผลต่อคดี ลั่นเหตุจูงใจชัด "ฆ่าล้างหนี้"

วันที่ 28 เม.ย.66 บรรยากาศที่สโมสรตำรวจในช่วงสายวันนี้ (28 เม.ย.66) พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนในคดี "แอม ไซยาไนด์" ในช่วงเวลาราว 10.00 น. โดยตัวพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ แม้จะไปทำภารกิจที่ประเทศเยอรมันนี แต่ก็ได้ร่วมประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งในส่วนของการประชุมในวันนี้ (28 เม.ย.66) คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดทำคดีของแต่ละท้องที่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ทั้ง จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี และ จ.นครปฐม ได้นำผลการรวบรวมพยานหลักฐานมารายงานต่อ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ โดยจะนำผลของการทำไทม์ไลน์ พยานแวดล้อม และผลการสอบปากคำแพทย์ทั้งหมด ไม่ว่าเป็นเคสที่ผ่าศพหรือไม่ผ่าศพ และการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงผลทางนิติวิทยาศาสตร์ จากการตรวจวัตถุพยานที่ตรวจเก็บได้ ไม่ว่าจะเป็นจากในรถของผู้เสียชีวิต รถของผู้ต้องหา และในบ้านของผู้ต้องหา บ้านของพี่สาวผู้ต้องหา มาหารือเพื่อพิจารณาว่า คดีการวางยานี้ จะมีใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เห็นกับแอมอีกหรือไม่ และจะสามารถออกหมายจับใครเพิ่มได้อีกหรือไม่

ขณะที่ทีมข่าวช่อง8 ได้พูดคุยกับนางสาวโศรยา ฤทธิอร่าม ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง เปิดเผยอาการของแอม หลังถูกคุมขังในเรือนจำวันที่ 2 โดยบอกว่า วันนี้ (28 เม.ย.66) แอมสามารถปรับตัวได้ดีขึ้น และสามารถอยู่กับผู้ต้องขังรายอื่นในห้องกักโรค ซึ่งจากที่ทีมสหวิชาชีพและนักจิตวิทยาของเรือนจำสังเกต พบว่า แอมได้พูดคุยกับผู้ต้องขังรายอื่นทำให้อาการเครียดลดน้อยลง แต่ยังมีความวิตกกังวลอยู่เล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นวันแรกที่เข้ามาในเรือนจำแล้วแอมมีอาการเครียดจนความดันขึ้นสูง จนต้องพาเข้าทัณฑสถานโรงพยาบาล และเมื่อหมอให้ยาอาการก็ดีขึ้น ก่อนจะกลับมาอยู่ที่ห้องกักโรคตามเดิม ซึ่งต้องมีการควบคุมเฝ้าระวังอาการตามกฎกระทรวงสาธารณสุขป้องกันโควิด-19 ให้ครบ 5 วัน จึงจะไปย้ายไปอยู่ที่ห้องบับเบิลโซนอีก 5 วัน ก่อนย้ายเข้าสู่แดนแรกรับได้ปกติ

ส่วนเด็กในครรภ์ของแอม เมื่อวานนี้ (27 เม.ย.66) สูตินรีแพทย์ได้เข้ามาดูแล โดยมีการตรวจสัญญาณชีพของเด็ก พบว่า อาการและสัญญาณชีพปกติ ไม่มีความน่ากังวลใด ๆ

ขณะที่ประเด็นเรื่องอาการทางจิตของแอมขณะนี้ ไม่สามารถสรุปได้ ซึ่งต้องรอให้แพทย์เป็นผู้สรุปข้อมูลอย่างละเอียดก่อนส่งมาอีกครั้ง

โดยระหว่างที่แอมอยู่ในห้องกักโรคที่ผ่านมาไม่ได้มีญาติติดต่อขอเข้าเยี่ยม มีเพียงนางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของแอมได้ติดต่อเข้ามาเพียงคนเดียว