ศาลฎีกาพิพากษายืน ประหารชีวิต "ผอ.กอล์ฟ" ชิงทอง ยิงตาย 3 ศพ ปี 63 ชี้พฤติกรรมอุกอาจโหดเหี้ยม-ไร้จิตสำนึก

วันนี้ (26 เม.ย. 66) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ อายุ 39 ปี อดีต ผอ.โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสิงห์บุรี เป็นจำเลย ฆ่าชิงทอง ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง จ.ลพบุรี ถูกดำเนินคดี 9 ข้อหา ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดฯ, พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายสาหัส, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิด โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุสมควร และโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต, มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, ใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ฐานชิงทรัพย์ และมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต รวม 9 ข้อหา ซึ่งจำเลยให้การภาคเสธ และถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง

พฤติการณ์ความผิดว่า เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 จำเลย ซึ่งมีอาวุธปืน ออโตเมติก ขนาด 9 มม. ติดท่อเก็บเสียง 1 อัน ซองกระสุนปืนพร้อมเครื่องกระสุน ได้นำอาวุธ พร้อมเครื่องกระสุนเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้า สาขาลพบุรี แล้วยิง นายธีระฉัตร นิ่มมา พนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของห้าง รวมทั้งประทุษร้ายบุคคลทั่วไปจนเป็นเหตุให้ เด็กชายภาณุวิชญ์ วงศ์อยู่ และ น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ พนักงานร้านทองออโรร่า จนถึงแก่ความตาย และจำเลยยังได้ยิงบุคคลอื่นอีก 4 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนชิงเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนักเส้นละ 1 บาท จำนวน 22 เส้น น้ำหนักเส้นละ 2 สลึง อีก 11 เส้น รวม 33 เส้น เป็นเงินทั้งสิ้น 664,470 บาท ผู้เสียหายไปโดยทุจริต ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ในคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2563 ลงโทษบทหนักสุดให้ประหารชีวิต และปรับ 1,000 บาท ริบของกลาง พร้อมสั่งให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย

ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนประหารชีวิต เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2564 ว่า แม้จำเลยได้พยายามบรรเทาผลร้ายด้วยการมอบเงินชดใช้ให้แก่ผู้ได้รับความเสียหายจากคดีนี้ แต่เห็นว่าพฤติการณ์ของจำเลยเป็นการกระทำโดยทารุณโหดร้ายขัดต่อหลักความสงบและไร้มนุษยธรรม อีกทั้งเป็นเรื่องร้ายแรง ที่ศาลล่างพิพากษาให้ประหารชีวิต อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น

ต่อมาจำเลยยื่นฎีกาขอให้ลดโทษ ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือเเล้ว เห็นว่า จำเลยฎีกาปัญหาข้อเท็จขอให้ลดโทษ โดยอ้างเหตุผลประกอบ ศาลเห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยกระทำอย่างอุกอาจ ในห้างสรรพสินค้าอันเป็นที่สาธารณะ กระทำต่อผู้บริสุทธิ์มีคนตายบาดเจ็บหลายคน รวมถึงคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย อันเป็นพฤติการณ์อุกอาจโหดเหี้ยมอันตรายร้ายแรงผิดมนุษย์ จำเลยเป็นถึง ผอ.โรงเรียน ควรมีจิตสำนึกที่ดี ให้สมกับมีอาชีพเป็นครู ควรประพฤติตัวให้เป็นเยี่ยงอย่าง กลับกระทำอย่างอุกฉกรรจ์ ที่จำเลยขอปรานีให้ลดโทษจึงไม่มีสมควร ที่สั่งลงโทษประหารชีวิต ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยพิพากษายืน

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้แม่ของผองกอล์ฟ เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาด้วย โดยระหว่างที่ผอ.กอล์ฟเดินผ่านแม่ พูดสั้นๆว่า แว่นตาที่ได้มาไม่ค่อยดีแล้ว 

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวช่อง8 ลงพื้นที่ไปจังหวัดลพบุรี ไปพบกับ ร้อยเอกสุขรกิต ทองทิพทย์ อายุ 64 ปี พ่อของนางสาวธิดารัตน์ ทองทิพย์ หรือ”น้องกวาง” อายุ 31 ปี อดีตสาวพนักงานร้านทอง โดยบอกว่า วันนี้หลังจากทราบข่าวผลการตัดสินคดีให้ประหารชีวิต ผอ.กอล์ฟ จึงจุดธูปบอกกล่าวต่อหน้าหิ้งกระดูกของ “น้องกวาง” ภายในบ้านพักหมู้บ้านเพชรโสธร ตำบลกกโก อำเภอเมืองลพบุรี ก่อนนำรูปออกมาทำความสะอาด
ร้อยเอกสุขรกิต เปิดเผยทีมข่าวว่า ตนเองรู้สึกพอในมากตั้งแต่ศาลชั้นต้น ได้ตัดสิน ผอ.กอล์ฟ ประหารชีวิต ลูกสาวตนจะได้รับความยุติธรรม มีความรู้สึกสบายใจ ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมามีความเป็นอยู่อย่างไม่มีความสุข เพราะรอดูการพิจารณาโทษ หลังจากทราบการพิจาณาโทษแล้วครอบครัวตนรู้สึกพอใจมาก



ขณะที่นางปรุงจิต ทองทิพย์ อายุ 62 ปี แม่น้องกวาง เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุน้องกวางเสียชีวิต ก็ไม่เคยเดินเข้าไปในห้างดังกล่าวอีกเลย เพราะไม่อยากเห็นภาพ เนื่องจากตลอดเกือบ 4 ปี ที่ผ่านมาตนเองยังทำใจไม่ได้ นอกจากนี้ทำให้เหลานชายตน “น้องออก้า” ปัจจุบันอายุ 8 ขวบ ต้องโดดเดี่ยวไม่มีทั้งแม่ ส่วนพ่อก็แยกย้ายไปอยู่ที่อื่น ตนเองรับหลานชายเลี้ยงไว้ และจะเลี้ยงหลานให้เป็นคนดี

ขณะที่“น้องออก้า” อายุ 8 ขวบ ลูกชายของ “น้องกวาง” บอกว่า ยังคงคิดถึงแม่อยู่ และรู้ว่าคดีนี้ได้สิ้นสุดแล้วตัดสินประหารชีวิต ผอ.กอล์ฟ และน้องออก้า ก็ยังมีโรคประจำตัวโรคหัวใจ ยังพูดคิดถึงแม่กวาง ขอให้แม่กวางเกิดมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้ง