"ทนายชื่อดัง" เตรียมยื่นหนังสือถึง "ผบ.ตร." เอาผิดทางวินัยกับ "ร.ต.อ." ใช้กำลังทำร้ายด้วยการบีบคอและกดศีรษะ ขวางไม่ให้แนะคดีลูกความ

21 เม.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสายัญ ดำรงคดีราษฎร์ อายุ 53 ปี อาชีพทนายความ รวบรวมหลักฐานเหตุการณ์ถูกตำรวจในเครื่องแบบทำร้ายร่างกาย เพื่อยื่นร้องเรียนถึง พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภ.7 เพื่อเอาผิด “ร.ต.อ.” พร้อมพวกฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

 

นายสายัญ เผยว่า ช่วงสายวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา ตนในฐานะทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจ จาก นายฉลวย อุดมศิริ อายุ 67 ปี ลูกความ ร่วมเดินทางไปยัง ห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง ทำธุรกิจด้านอะไหล่ยานยนต์ ตั้งอยู่ที่จ.ราชบุรี ซึ่งนายฉลวย เป็นผู้จัดการผู้อำนาจ เพื่อเข้าตรวจสอบสินค้าคงเหลือประจำปี เพื่อนับจำนวน และ คำนวณมูลค่า เตรียมยื่นเรื่องแจ้งสรรพากรตามขั้นตอน พร้อมทั้งนำหลักฐานทั้งหมดไปแสดงให้ หุ้นส่วนที่อยู่ประจำ หจก. ได้รับทราบ



เมื่อไปถึงกลับพบว่า หุ้นส่วนของลูกความ มีการประสานกำลังตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี มาลงพื้นที่ แจ้งว่าเพื่อสังเกตการณ์และให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างโปร่งใส เนื่องจากลูกความ และ หุ้นส่วนมีข้อพิพาทระหว่างกันอยู่ แต่ส่วนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของตน เพราะรับผิดชอบแต่เพียงกรณีการปกป้องทรัพย์สินของลูกความให้ได้รับความเป็นธรรมเท่านั้น

 

แต่ในขณะที่แจ้งรายละเอียดการตรวจสอบทรัพย์สิน พบว่า ตำรวจในเครื่องแบบไม่ต่ำกว่า 6 นาย พยายามกีดกันไม่ให้ตนอธิบายหรือชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนใดๆ จึงพยายามเดินไปหาลูกความ ซึ่งขณะนั้นยืนอยู่ด้านในห้างหุ้นส่วนจำกัด แต่จังหวะนั้น ร.ต.อ. ซึ่งยืนคุยกับหุ้นส่วนที่เป็นคู่กรณีกับลูกความตน ได้ใช้กำลัง จับบีบคอตนก่อนกดลงกับพื้น โดยมี ตำรวจอีกหลายนายมาร่วมล็อกตัวตนไว้ แล้วใช้กำลังผลักออกนอกร้าน จนตนได้รับบาดเจ็บ

 

สำหรับเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ มีผู้บันทึกภาพคลิปเหตุการณ์ไว้ได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับภาพวงจรปิดในร้านที่บันทึกเหตุการณ์ตำรวจกลุ่มนี้ใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับนักกฎหมายที่มาให้ความเป็นธรรมแก่ลูกความ ซึ่งไม่อาจยอมรับได้


อย่างไรก็ตามได้นำหลักฐานทั้งหมดส่งเรื่องถึง ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตำรวจท้องที่นี้ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีในความผิดตามมาตรา 157 รวมทั้ง ส่งเรื่องถึง ผบ.ตร. ให้ตรวจสอบการทำงานของตำรวจชุดนี้ ว่า เหมาะสมหรือไม่ เพื่อเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญาต่อไป