จับผัวเมียรับจ้างเปิดบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้ตุ๋น"หมอ-นักธุรกิจ" สูญ 143 ล้าน เตรียมกวาดล้าง ซิมเถื่อนลอตใหญ่

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่บช.สอท. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. แถลงข่าวผลการจับกุมตัวนางสาวปทุมรัตน์ อายุ 20 ปี และนายสมศักดิ์ อายุ 43 ปี สองสามีภรรยา ตามหมายจับของศาลอาญา ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยจับกุมได้หมู่บ้านเอื้ออาทรบ้านฉาง ถนนปทุมลาดหลุมแก้ว ตําบลบางปรอก อําเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี

สืบเนื่องจากประมาณเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา บช.สอท. ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้เสียหาย 2 ราย โดยรายแรกเป็นแพทย์หญิง ในจ.ชุมพร ถูกคนร้ายหลอกโอนเงินจำนวน 101 ล้านบาท และรายที่สองเป็นนักธุรกิจประกอบกิจการพลังงานแสงอาทิตย์ ถูกคนร้ายหลอกโอนเงิน จํานวน 42 ล้านบาท

จากการสอบปากคำเหยื่อทั้งสอง พบแผนประทุษกรรมคล้ายกัน โดยคนร้ายอ้างเป็นพนักงานขนส่ง บริษัทเอกชน ออกอุบายว่ามีพัสดุที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพื่อความบริสุทธิ์ใจให้ติดต่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.เมืองเชียงราย เมื่อติดต่อไปแล้วมีคนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจระดับ ผู้กํากับ สภ.เมืองเชียงราย แจ้งว่าให้ผู้เสียหายทั้งสองโอนเงินในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายเพื่อไปตรวจสอบ และข่มขู่ว่าถ้าไม่มีการโอนเงินมา ตรวจสอบจะดําเนินการออกหมายจับผู้เสียหายทั้งสอง ผู้เสียหายทั้งสองเกิดความกลัวจึงได้โอนเงินทั้งหมด ไปให้ตรวจสอบ

จากนั้นผู้เสียหายทั้งสอง จึงได้พยายามติดต่อกับผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายทั้งสองจึงเชื่อว่าตนเองนั้นถูกหลอกลวง จึงได้เดินทางมาแจ้งความ กระทั่งต่อมาชุดสืบสวนทราบผู้ก่อเหตุคือนายสมศักดิ์ และน.ส.ปทุมรัตน์ จึงได้นำกำลังจับกุม
นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัตินายสมศักดิ์ พบมีหมายจับของศาลจังหวัดลําปาง ที่ จ.262/2565 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ในฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ”

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนผู้ต้องหาทั้งสองเป็นบัญชีสุดท้ายที่โอนไปยังบัญชีปลายทางของขบวนการ ซึ่งทั้งสองให้การปฎิเสธพร้อมอ้างว่ามีเพื่อนชักชวนให้เปิดบัญชีจำนวน 4 บัญชี โดยให้ค่าจ้างบัญชีละ 500 บาท เมื่อเปิดบัญชีแล้วทางผู้ต้องหาได้ยินยอมให้รหัสในการทำธุรกรรมทางออนไลน์ และไม่ทราบมาก่อนว่าบัญชีที่ถูกเปิดถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด

สำหรับกรณีนี้ถือว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดฐานเป็นตัวการ หรือเป็นผู้สนับสนุนในความผิดนั้น ตามพรก.ใหม่ ที่ได้ออกมาบังคับใช้ อย่างไรก็ตามคดีตั้งแต่ผู้เสียหายแจ้งความทางตำรวจบช.สอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จับกุมเครือข่ายดังกล่าวตั้งแต่บัญชีม้าจนถึงผู้ที่เป็นคอลเซ็นเตอร์พูดหลอกเหยื่อ รวมทั้งได้มีการเฉลี่ยทรัพย์คืนให้ผู้เสียหายอย่างไรก็ดีทางชุดสืบสวนพิสูจน์ทราบตัวบุคคลแล้วเป็นชายชาวต่างชาติ และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติมเพื่อสาวถึงตัวการใหญ่ต่อไป

ขณะที่พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าหลังจากที่มีการบังคับใช้กฎหมายตัวใหม่ที่มีการควบคุมบัญชีม้าและซิมโทรศัพท์ พบว่ามีบัญชีที่เปิดใหม่ลดน้อยลง แต่ยังมีผู้ที่หลงผิดใจดีสู้เสือยังลักลอบเปิดบัญชีม้าอยู่ โดยมีการเสนอราคาในการรับจ้างเปิดบัญชีในราคาสูงขึ้น โดยมีการสนนราคาตั้งแต่ 3-4 หมื่นบาท อย่างไรก็ตามในส่วนของบัญชีม้าและซิมโทรศัพท์ทางผบ.ตร. ได้มีข้อสั่งการให้ทำการรวบรวมข้อมูลเพื่อทำการปราบปรามกวาดล้างบัญชีม้าซิมโทรศัพท์ต่อไป

ในส่วนกรณีของน.ส.พิมพ์ลดา หรือเส้นด้าย สอดอStyle เน็ตไอดอลและยูทูปเบอร์สาว ที่ออกมาเล่าประสบการณ์เสียเงิน 25 ล้านบาท ในระยะเวลาแค่ 3 เดือนครึ่ง ไปกับเว็บพนันออนไลน์  ทางพล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ