ศาลสั่งคุก 256 ปี 168 เดือน "ดาบตำรวจ" ลักปืนหลวง สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กว่า 100 กระบอกไปขาย พร้อมสั่งคืนอาวุธ หรือใช้ราคากว่า 1.3 ล้านบาท

วันที่ 30 มี.ค.2566 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ได้รับทราบนายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานคดีอัยการทุจริตภาค 1 เจ้าของสำนวน ที่ได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับ ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร อดีต ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แอบลักปืนหลวงจากคลังของ สภ.ปากเกร็ด กว่า 100 กระบอกไปขาย และถูกจับกุมได้

ซึ่งได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ซึ่งมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยศาลพิพากษา ศาลลงโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ ทรัพย์ ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานพาอาวุธปืน รวม 28 กระทง ๆ ละ 5 ปี ฐานค้า หรือจำหน่ายอาวุธปืน 6 กระทง ๆ ละ ตลอดชีวิต จำเลยรับสารภาพรวมจำคุก 256 ปี 168 เดือน ตามกฎหมายคงจำคุกได้ 50 ปี ให้จำเลยคืนอาวุธปืน หรือใช้ราคา 1,340,395.93 บาท และใช้ราคา 21,430.08 เหรียญสหรัฐ

อ่านข่าว : ไล่ออกแล้ว “ด.ต.”ลักปืนหลวงโรงพัก ขายเกลี้ยงเกือบ 100 กระบอก
อ่านข่าว : สั่งเด้ง ผกก.สภ.ปากเกร็ด เซ่นปม ด.ต. ลักปืนหลวงไปจำนำกว่า 100 กระบอก

นายโกศลวัฒน์ กล่าวต่อว่า พฤติการณ์คดีนี้ ด.ต.เชาวลิต ได้ปลอมเอกสารราชการ ไปรับอาวุธปืนหลวงมาจากกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี มาแล้วนำไปจำนำกับบุคคลภายนอก จำนวน 47 กระบอก และยังนำอาวุธปืนของทางราชการที่อยู่ในความครอบครองในหน้าที่ไปจำนำกับบุคคลภายนอกอีก 115 กระบอก

ผู้ต้องหาหลบหนีและถูกจับที่ จ.หนองคาย และนำไปฝากขังพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้พนักงานอัยการในวันที่ 30 ธ.ค.2565 ได้พิจารณาและประสานกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงใน สำนวนการสอบสวนหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นตามมาตรา 66 และ67 ของ พรป.ปปช. และดำเนินคดีจนศาลมีคำพิพากษาดังกล่าว