"น้องมายด์" แกนนำราษฎร โผล่ที่ทำการพรรค "พปชร." บอก มาทำข่าว รับตื่นเต้นได้พบ "ลุงป้อม" เตรียมยิงคำถาม นิรโทษกรรมทางการเมือง และจุดยืนรธน.60 ขอขยายความก้าวข้ามความขัดแย้ง

การเปิดตัว พลเอกธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ล็อตใหญ่ ของพรรคพลังประชารัฐในช่วงบ่ายวันนี้ มีสื่อมวลชน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และทีมงานว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จำนวนมากเดินทางมายังที่ทำการพรรค โดยหนึ่งในนั้นมี นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ แกนนำกลุ่มราษฎร เดินทางมาด้วย

 

โดยนางสาวภัสราวลี เปิดเผยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ที่เดินทางมาวันนี้มาทำข่าวในรายการ “มองมุมมายด์” ของช่อง เฟรนด์ทอล์ค ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนถามคำถามได้ จึงได้เตรียมแนวทางคำถามที่จะไว้ใช้ถามกับทุกพรรคการเมือง ให้แฟนรายการที่ติดตามรายการของตนได้เห็นจุดยืนแต่ละพรรค โดยวันนี้จะมาฟังและถามคำถามด้วยตัวเอง

 

จากนั้นทีมงานพรรคพลังประชารัฐ ได้ประสานงานว่าจะให้นางสาวภัสราวลี ขึ้นไปพบพลเอกประวิตร ซึ่งนางสาวภัสราวลีมีท่าทีที่ตื่นเต้น และ กล่าวว่าวันนี้มาในนามของสื่อ ซึ่งการเคลื่อนไหวในครั้งนี้จะถามจุดยืนกับทุกพรรคการเมือง ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญปี 60 และการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ซึ่งตนได้มีการถามคำถามนี้กับนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยไปแล้วเมื่อวาน(22 มี.ค.) โดยจะนำข้อสงสัยของประชาชนให้แต่ละพรรคการเมืองได้แสดงจุดยืนให้มากที่สุด

 

เมื่อถามว่ารู้สึกประหลาดใจหรือไม่ที่พลเอกประวิตรเปิดโอกาสให้พูดคุย นางสาวภัสราวดีตอบว่า ถือเป็นหมุดหมายที่น่าสนใจ และเป็นจังหวะที่น่าสนใจ หากพลเอกประวิตรอยากจะคุยกับตน เราอาจจะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ว่าเป็นอย่างไร และหลังจากนี้ จะไปพรรคการเมืองอื่นรวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย เพราะตั้งใจจะไปทุกพรรคอยู่แล้ว

 

ส่วนจะไปรวมไทยสร้างชาติในวันที่พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอยู่หรือไม่นั้น  นางสาวภัสราวดี กล่าวว่า ตามหลักแล้ว จะมีพลเอกประยุทธ์หรือไม่มี ตนก็จะคุย ซึ่งอยากจะคุยกับแกนนำพรรค คำถามเหล่านี้เพื่อสะท้อนเจตนารมณ์ของพรรคตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด พร้อมย้ำว่ามาในนามของสื่อไม่ได้นำไม่ได้มาเพื่อเคลื่อนไหวแต่อย่างใด เพราะมีความตั้งใจที่จะทำรายการนี้มาก ในแนวทางกการเมืองและจะมีการนำเคสการเมืองมานั่งคุยกันแต่ในช่วงเลือกตั้ง ก็จะลงภาคสนามมากขึ้น เพื่อถามคำถามกับพรรคการเมืองทุกพรรคก่อนเลือกตั้ง

 

ทั้งนี้ในฐานะที่เคยเป็นแกนนำต่อต้านรัฐบาลมาก่อน ไม่ได้กังวลว่าจะถูกกีดกันไม่ให้เข้าพรรค เพราะมาในฐานะสื่อและยิ่งในสถานการณ์ที่ประชาชนจับตาดู การเปิดกว้างคือสิ่งที่สำคัญให้ ประชาชนได้ตัดสินใจว่าพรรคเหล่านี้ได้ทำตามระบอบประชาธิปไตยหรือไม่

 

 

ส่วนนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งของพรรคพลังประชารัฐนั้น นางสาวภัสราวดี มองว่าเรื่องนี้ต้องมีจุดขยายความว่าจะก้าวข้ามความขัดแย้งในลักษณะไหน อย่างไร ซึ่งตนก็จะถามคำถามนี้เช่นกัน และรวมไปถึงการนิรโทษกรรมด้วย