กทม.ยกจริง!! ซากรถยนต์จอดทิ้งกลางซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 และใต้ทางด่วนศรีรัชเชิงสะพานพระราม 7 ย่านบางพลัด

(23 มี.ค.66) เวลา 07.30 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามการเคลื่อนย้ายซากยานยนต์ที่จอดทิ้งไว้บนถนนหรือสถานที่สาธารณะ บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 และบริเวณใต้ทางด่วนศรีรัช เชิงสะพานพระราม 7 เขตบางพลัด โดยมี นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ นางสาวอารียา เพ็งประเสริฐ ผู้อำนวยการเขตบางพลัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตบางพลัด สำนักเทศกิจ กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง สถานีตำรวจนครบาลบางพลัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล

สำนักงานเขตบางพลัด ได้สำรวจความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ ประกอบกับได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีซากยานยนต์จอดทิ้งไว้บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 จำนวน 1 คัน และบริเวณใต้ทางด่วนศรีรัช เชิงสะพานพระราม 7 จำนวน 1 คัน โดยได้ประสานสถานีตำรวจนครบาลท้องที่ ดำเนินการตรวจสอบซากยานยนต์ดังกล่าวว่าอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทางคดีหรือไม่ พร้อมทั้งปิดประกาศให้เคลื่อนย้ายซากยานยนต์ออกจากพื้นที่ภายในระยะเวลา 15 วัน แต่ยังไม่มีผู้ใดมาทำการเคลื่อนย้าย ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบเจ้าของหรือผู้ครอบครองซากยานยนต์ดังกล่าว โดยวันนี้เขตฯ ร่วมกับสำนักเทศกิจ สถานีตำรวจนครบาลบางพลัด และกองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง ซึ่งให้การสนับสนุนรถสไลด์ในการเคลื่อนย้ายซากยานยนต์ เพื่อนำไปไว้บริเวณสถานที่เก็บรักษาของกลางศูนย์เก็บซากยานยนต์ เขตหนองแขม โดยจะจัดเก็บซากยานยนต์ไว้เป็นระยะเวลา 6 เดือน หากไม่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองมาติดต่อขอรับคืน จะดำเนินการขายทอดตลาดซากยานยนต์ตามระเบียบของทางราชการว่าด้วยการดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการจอดทิ้งซากยานยนต์บนถนนหรือสถานที่สาธารณะ สามารถแจ้งข้อมูลได้ทาง Application Traffy Fondue หรือฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขตในพื้นที่ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่สาธารณะ ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 18 ที่กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดทิ้ง วาง หรือกองซากยานยนต์บนถนนหรือสถานที่สาธารณะ โดยบทกำหนดโทษ ตามมาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท สำหรับผลการดำเนินงานจัดการซากยานยนต์จอดทิ้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2562-2566 ที่ผ่านมา ตรวจพบซากยานยนต์ จำนวน 1,299 คัน เจ้าของเคลื่อนย้าย จำนวน 1,091 คัน สำนักงานเขตเคลื่อนย้าย จำนวน 161 คัน และรอเคลื่อนย้าย จำนวน 47 คัน ทั้งนี้ได้มีการเปรียบเทียบปรับไปแล้ว จำนวน 28 คัน และขายทอดตลาด จำนวน 11 คัน