"สมศักดิ์" ยังไม่ตอบย้ายพรรคหรือไม่ โยน "สุริยะ" เป็นผู้ตอบ ชี้ยังเหลือเวลาก่อนยุบสภาอีก10 กว่าวัน ลั่นเมื่อเคลียร์งานเสร็จจะไปไหนมาไหนก็ได้! บอกถนัดเป็นรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนทางการเมืองว่าจะย้ายไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ว่าตนได้มอบหมายให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจรมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ที่ดำเนินการชี้แจง เพราะระยะเวลาที่ยุบสภายังเหลืออยู่ ถ้านับจากวันนี้ก็ 10 กว่าวัน ก็คงจะตัดสินใจอะไรกันได้แล้ว ขอให้ถามนายสุริยะ ซึ่งนายสุริยะกำลังตัดสินใจอยู่ ยกให้เป็นผู้ชี้แจง

 

เมื่อถามว่าโอกาสที่จะย้ายพรรคมีมากน้อยแค่ไหน เพราะดูเหมือนกำลังลังเลอยู่ นายสมศักดิ์ตอบว่า ลังเลหรือไม่ลังเล คงไม่ใช่ แต่เราต้องรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มันมีงานอะไรที่คั่งค้างก็ต้องทำให้เสร็จ อย่างเช่นเมื่อตอนกฎหมายปราบปรามทรมานอุ้มหาย ก็ต้องเข้าครม.และก็ต้องเข้าสภา และเรื่องของพระราชกำหนด ซึ่งในสัปดาห์ที่แล้ว ก็ต้องรับผิดชอบ หากเราไม่อยู่ก็จะมีปัญหาผลเสีย แต่เรื่องของงานในช่วงนี้ ก็จะมีเรื่องของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เป็นเรื่องของที่พักของผู้ถูกกล่าวหาหรือว่าผู้ต้องขังระหว่างที่คดียังไม่สิ้นสุด ให้สามารถให้ศาลสั่งหยุดอยู่ในสถานที่บางสถานที่ ที่ไม่เคยกำหนดไว้ในกฎกระทรวงเลย ซึ่งจะต้องทำให้เขาให้เสร็จ ซึ่งเข้าใจว่าในสัปดาห์หน้าก็จะเอาเข้าครม. ได้ทัน หากว่าหมดหน้าที่การงานแล้วก็จะไปไหนมาไหนก็ได้ เคลียร์งานเสร็จแล้วก็ไปไหนก็ได้หรือไม่ไปก็ได้ ถือว่างานเราจบแล้ว

 

เมื่อถามว่าคนในกลุ่มสามมิตรจะฝากเลี้ยงไว้ที่ พรรคพลังประชารัฐหรือไม่ หรือจะพากันไปด้วย นายสมศักดิ์ตอบว่า เขาเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้วบางคนย้ายไปอยู่บ้านใหม่ แล้วก็มีข่าวว่าเขาอยากจะย้ายกลับก็เยอะ ซึ่งตอนนี้การเมืองช่วงวันเวลาสุดท้ายใกล้จะมาถึง คนที่ย้ายกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนออกไป แต่ตนก็ดูแล้วว่าบรรยากาศมันไม่ค่อยสบายใจ เห็นจากเรื่องทั่วๆไปที่เกิดขึ้น ในบรรยากาศการเมืองมันไปเร็ว บางทีไปแล้วมันไม่ใช่ก็คิดกลับ แต่กลับไม่ได้เพราะที่มันเต็ม มันก็ต้องขยับอย่างไร เพื่อให้อยู่ได้

 

เมื่อถามว่าหลังเลือกตั้งเสร็จกลุ่มสามมิตรจะกลับมารวมกันเหมือนเดิมหรือไม่หลังจากที่กระจายไปอยู่พรรคต่างๆ นายสมศักดิ์ตอบว่า มันเป็นบรรยากาศที่จะต้องดูจนถึงตอนนั้น ว่าในการจัดตั้งรัฐบาลก็ยังอีกนาน ถ้าหากว่าเรามีโอกาสอยู่ตรงนั้นก็อาจจะได้ช่วยทุกคนเขาได้ เพราะเรารู้จักคนรู้จักกลุ่ม มันก็สามารถเหนี่ยวนำ ให้การพูดคุยมันง่ายขึ้น

 

เมื่อถามย้ำว่าการเป็นรัฐบาลนั้นดีกว่าเป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ถูกต้องเพราะทุกคนก็ต้องการเป็นรัฐบาล แต่ว่าเมื่อเป็นไม่ได้ก็ไปตามอุดมการณ์ แต่ตนก็ถนัดเป็นรัฐบาลมากกว่า เป็นฝ่ายค้าน

 

"แต่ตนตอบไม่ได้ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือเปล่า แต่ต้องบอกว่าผมก็ไม่เคยเป็นฝ่ายค้านในขณะที่ผมเป็นส.ส." นายสมศักดิ์กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีกระแสข่าวว่าได้ไปลาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว นายสมศักดิ์ตอบว่าไม่ทราบเรื่องกระเเสข่าว

 

เมื่อถามย้ำว่าหากจะย้ายออกจะต้องไปลาหัวหน้าพรรคอีกหรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่า ไม่ทราบขึ้นอยู่กับนายสุริยะ