รวบ 3 ชายไทยเร่ขายกัญชา มีอาการมึนเมาใช้มีดจี้ ก่อนปล้นทรัพย์ต่างชาติกว่า 4 หมื่นบาท อ้างชักมีดป้องกันตัว

วันที่ 3 ม.ค.66 เมื่อเวลา 04.30 น. พ.ต.ท.มนเดช มาแนม สว.(สอบสวน) สน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวชาวไทยมีอาการมึนเมาปล้นทรัพย์ชายชาวต่างชาติ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง บางลำพูน ถนนจักรพงษ์ แขวงตลาดยอด พระนคร กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันและปราบปราม

โดยที่เกิดเหตุพบนายยอน บอคดัน อายุ 28 ปี ชาวโรมาเนีย ผู้เสียหายกำลังจะเดินไปท่ารถบุญศิริเพื่อจะไปเที่ยวเกาะกูด เมื่อเดินมาถึงบริเวณหน้าห้างตั้งฮั่วเส็ง ได้มีชายจำนวน 3 คนมีอาการมึนเมา กระทำการปล้นทรัพย์ โดยนายณัฐวุฒิ อายุ 25 ปี อาชีพค้าขายทั่วไป คนที่ 1 ได้ใช้อาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต จี้ที่ลำตัวผู้เสียหาย จากนั้นนายสรวีย์ อายุ 24 ปี (ไม่มีอาชีพ) คนที่ 2 โชว์อาวุธปืนเหน็บไว้ที่เอว ส่วนนายณัฐพล อายุ 24 ปี อาชีพช่างตัดผม คนที่ 3 ยืนประกบอยู่ โดยผู้ต้องหาคนที่ 1 ได้พูดให้ผู้เสียหายส่งเงินให้ ด้วยความกลัวผู้เสียหายจึงได้ส่งมอบเงินสดรัฐบาลไทย จำนวน 1,800 บาท และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อเซียวมี จำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 36,000 บาท ขณะกำลังวางทรัพย์ลงพื้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบและเข้าควบคุมตัวไว้ได้ทันที โดยผู้เสียหายไม่ได้รับบาดเจ็บและได้รับทรัพย์สินคืนครบถ้วน

จากการสอบถามทั้งสามคนให้การปฏิเสธตามข้อกล่าวหาปล้นทรัพย์ โดยเผยว่าพวกตนเองมาถนนข้าวสารเพื่อมาเดินจำหน่ายกัญชาให้กับนักท่องเที่ยว เมื่อเดินอยู่หน้าห้างได้พบชายชาวต่างชาติรายนี้ได้ใช้นิ้วก้อยป้ายจมูกตัวเอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่ามีโคเคนขายหรือไม่ พวกตนเองจึงบอกว่าพวกตนเองไม่ได้ขาย จากนั้นนักท่องเที่ยวก็โวยวายเสียงดังพยายามปรี่เข้ามาทำร้ายพวกตนเอง จึงนำมีดออกมาเพื่อป้องกันตัว ส่วนอาวุธปืนนั้นเป็นปืนไทยประดิษฐ์หักลำกล้อง ใส่กระสุนลูกซองเบอร์ 20 มี 2 นัด ซึ่งเหน็บไว้ที่เอวไม่ได้ชักออกมาขู่หรือโชว์แต่อย่างใด การที่นักท่องเที่ยวเห็นนั้นเพราะเสื้อตนเองมันสั้นอาจจะเห็นเอง แล้วนักท่องเที่ยวจู่ ๆ ก็หยิบเงินกับโทรศัพท์วางพื้นแล้วตำรวจก็มาพอดี ทั้งนี้พวกตนเองมีอาการเมาจริง แต่จากการตรวจปัสสาวะในร่างกายพวกตนเองก็ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย

ด้าน พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม เผยว่าผู้ต้องหาทั้งสามให้การปฏิเสธ ซึ่งเป็นสิทธิ์จะให้การอย่างไรก็ได้อยู่แล้ว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ นำตัวไปกักขังไว้ สน.นางเลิ้ง ไว้ก่อนเนื่องจากยังทำสำนวนไม่แล้วเสร็จ แต่ชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำการระงับเหตุได้อย่างทันเหตุการณ์ซึ่งชาวบ้านระแวงต่างช่วยกันเป็นหูเป็นตาแจ้งเหตุเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว