"นายกฯ" เชิญชวนประชาชนซื้อหอมแดง เป็นสื่อแทนใจช่วงวันวาเลนไทน์ช่วยเกษตรกร ประชาสัมพันธ์โครงการ "สื่อรักด้วยใจ รักใครให้หอม.. ศรีสะเกษ"

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ช่วยประชาสัมพันธ์ “สื่อรักด้วยใจ รักใครให้หอม.. ศรีสะเกษ”

นายกฯ เชิญชวนให้ประชาชนร่วมอุดหนุนหอมแดง ของจังหวัดศรีสะเกษที่ได้จัดทำเป็นแพ็คเกจ ใช้เป็นของแทนใจสื่อความรักในวันวาเลนไทน์ ในโอกาสวันวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้เพื่อช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่ได้ทั้งความสุขและความสดชื่นได้ช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรงด้วย เป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ทำงานร่วมกัน ไม่ใช่ว่าคนนี้ดีคนนี้เก่งแล้วที่เหลือไม่ทำงาน เพราะทุกคนช่วยกันทำงานด้วยกันทุกคน พร้อมขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด ขอให้หอมกันเยอะๆ และเลือกหอมให้ดี อย่าหอมผิดคน ไม่เช่นนั้นจะโดนนะ (นายกฯยิ้มอย่างมีความสุข)

จากยั้นนายกฯได้ชิมชา ผลิตภัณฑ์จากจังหวัดศรีสะเกษและให้นำเข้าไปแจกยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพร้อมระบุว่า รู้ใช่ไหมว่าตนเองเป็นคนไม่หวานดังนั้นต้องเติมน้ำตาล 

นายกฯได้ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรม ไทย แลนด์ เซฟเฟ่อร์ อินเตอร์เน็ต เดย์ 2023  สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยทางอินเตอร์เน็ตสำหรับเด็กในบ้าน

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวตอนหนึ่ง กับเด็กและเยาวชนว่า รัฐบาลพร้อมขับเคลื่อนงานดูแลความปลอดภัยเพื่ออนาคตของเยาวชนอย่าไปสนใจเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เรื่องไร้สาระทุกวันนี้ ให้มาสนใจที่เป็นสาระ และย้ำว่ารัฐบาลได้มอบนโยบายความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ไปแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปด้วยตนเองจึงหวังว่าทุกคนจะช่วยกันสานต่อ ทั้งนี้ยอมรับว่าบ้านเราเรื่องความปลอดภัยทางอินเตอร์เน็ตจะช้าไปบ้าง จึงต้องเตรียมความพร้อมเรื่องการใช้อินเตอร์เน็ตไม่ให้ไปหลงเชื่อ เพราะกันหลอกลงทุนทางออนไลน์ ที่ให้ผลตอบแทนสูงแต่ลงทุนน้อยซึ่งเป็นไปไม่ได้ จึงขอให้ทุกคนคำนึงถึงธรรมะด้วยอย่าโลกอย่าโกรธอย่าหลง ย้ำว่าสิ่งนี้ห้ามใครไม่ได้แต่จำเป็นที่จะต้องพูดย้ำเตือนเพราะว่าส่งผลกระทบลงไปถึงระดับเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะการให้ความรู้ผ่านสถานศึกษาเพื่อให้เท่าทันภัยทางออนไลน์ ให้เจ้าหน้าที่สามารถกวาดล้างคนพวกนี้ไปให้ได้ พร้อมกันนี้ขอฝากบ้านเมืองไว้กับเด็กและเยาวชนด้วย

นายกฯ  ยังรับชมการนำเสนอนิทรรศการประกาศรางวัลเกียรติยศจากนายกรัฐมนตรี (Prime Minister’s Digital Award 2022) พร้อมกันนี้ได้ฝากเรื่องดิจิทัล ให้ระวังเรื่องการทำให้เกิดความเข้าใจผิดและคนไม่ดีนำไปใช้ประโยชน์ เกิดมูลลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก รัฐบาลอย่าแก้ไขให้มีกฏหมายใหม่เพื่อที่จะสามารถปิดเว็บไซต์หลอกลวงได้ทันที ต้องพิจารณากฎหมายระหว่างประเทศร่วมด้วย เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกใบนี้ และย้ำว่านายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่ทั้งหมดนี้คือผลงานของรัฐบาลที่ทำงานโดยทุกกระทรวงทำงานร่วมกัน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง และย้ำว่าสิ่งที่อันตรายที่สุดในประเทศไทยคือความไม่เข้าใจ และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ผิด