เกิดเหตุน้องชายคลั่งใช้ถังสีเปล่าทุบพี่ชายที่พิการ จนเสียชีวิต และตีแม่จนได้รับบาดเจ็บ สาเหตุน้องชายเป็นคนติดสุราอย่างหนัก และมักทำร้ายร่างกายพี่ชายเป็นประจำ เบื้องต้นน้องชายผู้ก่อเหตุยังให้การวกวน เจ้าหน้าที่ต้องรอสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 มกราคม 2566 ร้อยตำรวจเอกนิพนธ์ สุทธหลวง ร้อยเวรสภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งเกิดเหตุทำร้ายร่างกายและมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพัก จึงประสานแพทย์เวร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นบ้านพัก ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พบผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะบวมปูดเป็นหญิงสูงอายุ 1 ราย คือนางบุญชื่น อายุ 82 ปี เจ้าของบ้าน และพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายพิการเป็นโปลิโอตั้งแต่กำเนิด 1 ราย ทราบว่าเป็นลูกชายของนางบุญชื่นฯ ผู้ได้รับบาดเจ็บ คือนายสายันท์ อายุ 54 ปี ผู้เสียชีวิตและเป็นพี่ชายของผู้ก่อเหตุ ขณะที่ชาวบ้านสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้คือ นายอัคฤทธิ์ ศรีสว่าง อายุ 44 ปี และยอมรับสารภาพว่าได้ใช้กระถังสีเปล่าตีพี่ชายจนเสียชีวิต และตีหัวแม่จนได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยังให้การวกวน เจ้าหน้าที่ต้องรอสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

 

จากการสอบถามนางสาวสำเนียง อายุ 48 ปี เพื่อนบ้าน ก็ทราบว่าครอบครัวนี้อยู่กัน 3 คน มีแม่อายุมากแล้ว และก็คนตายคือลูกชายคนโต ส่วนผู้ก่อเหตุงานการไม่ค่อยทำ ติดสุราอย่างหนัก เมาแล้วก็ชอบอาละวาด คนแถวนี้เห็นเป็นประจำ ส่วนใหญ่ก็สงสารคอยเอาอาหารแวะเวียนมาแบ่งปันให้เพราะแม่ทำงานไม่ไหว คนตายก็พิการเป็นโปลิโอตั้งแต่กำเนิด บ่อยครั้งที่ผู้ก่อเหตุมักจะใช้ให้พี่ชายที่เป็นโปลิโอไปซื้อของให้บ่อยๆ ทั้งซื้อเหล้าและอย่างอื่น บางครั้งคนตายซื้อมาผิดเพราะสมองเขาก็พิการ ก็ทำร้ายพี่ชายตัวเองเป็นประจำ เพื่อนบ้านก็เอือมระอา เวลาเมาก็มักจะอาละวาดทุบตีพี่กับแม่ทำร้ายข้าวของ แต่วันนี้ได้ยินเสียงคนเป็นแม่ร้องเสียงดังมากผิดปกติ ก็เลยเดินมาดูก็พบว่าได้รับบาดเจ็บหัวบวมปูด ส่วนตัวผู้ตายตอนนั้นยังหายใจรวยรินอยู่ แต่พอเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะถึงก็พบว่าก็เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนตัวผู้ก่อเหตุก็สภาพเหมือนเมาพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็ไม่ได้หลบหนีไปไหนจนเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมไว้ได้ และพูดเพียงว่าใช้กระถางตีพี่ชายไป 1 ครั้ง แล้วพี่ชายตกจากโต๊ะ ส่วนแม่ก็มาด่าตนว่าตีพี่ชายทำไมตนโมโหก็เลยคว้าไม้เท้าฟาดหัวแม่ไป 2 ครั้ง ก็ไม่คิดว่าพี่ชายจะตาย แถมยังพูดทิ้งท้ายว่าถ้าเข้าคุกแล้วจะไปติดเหล้าที่ไหนได้