เปิดใจ "เม พรีมายา" หลังได้ประกันตัว ขอบคุณทุกกำลังใจ ยันไม่มีใครกล้าเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงทำสิ่งไม่ดี เดินหน้าสู้ต่อ

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ไซเบอร์ เปิดยุทธการ "ผึ้งแตกรัง" บุกค้นบ้านซีอีโอสาว "เม-พรีมายา" หรือน.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ชื่อแบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา) และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ใช้ข้อความอันเป็นเท็จ ลักษณะเชิญชวนอ้างว่าลงทุน 6,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาท พร้อมโพสต์ผภาพหญิงคนหนึ่งคู่กับรถหรูในโชว์รูม ในลักษณะเชิญชวนแต่เมื่อตรวจสอบพบว่าไม่เป็นไปตามข้อความที่ปรากฏ ต่อมา "เม พรีมายา" ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยใช้ระยะเวลานานกว่า 8 ชั่วโมง ในประเด็นต่าง ๆ โดยเฉพาะ ธุรกิจ, การได้มาซึ่งผลกำไร, การออกแคมเปญในลักษณะชวนเชื่อ, รวมไปถึงประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง "เม-พรีมายา" ให้การภาคเสธว่าไม่ได้มีเจตนาที่หลอกลวง ก่อนที่ทางพนักงานสอบสวนจะพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว โดยให้วางเงินสด 100,000 บาท เป็นหลักทรัพย์ประกัน

 

ต่อมา "เม พรีมายา" ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเปิดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยระบุว่า

"วันนี้เมไม่ได้ยืนหยัดกับการสู้ชีวิตมากมายขนาดนี้แค่เพื่อตัวเองหรอกนะคะ แต่เมเห็นความรักและความหวังอีกมากมายที่ฝากไว้กับผู้หญิงคนนี้ ไม่มีเหตุผลอะไรเลยจริงๆค่ะ ที่จะไม่ต่อสู้ เดินหน้าเพื่อพวกเราทุกคน เราทำกันมาได้ขนาดนี้ ทุกคนสู้ ตั้งใจ ทุ่มเทมามากมายจนมันทำให้เมยอมแพ้และอ่อนแอไม่ได้เลยเหมือนกัน เมขอขอบคุณทุกคนที่รักกันจริงๆ การกระทำของพวกเรา(เพื่อนพี่น้อง คนใกล้คนไกล คนที่รักและหวังดี)ต่างก็เป็นกำลังใจให้กันและกันมาเสมอ มันคอยตะโกนออกมาจนเมสัมผัสได้ทุกช่องทาง "บอสเมสู้ๆ" เมรู้และเมก็เชื่อว่าคนอื่นก็รับรู้ได้ที่เมก็คอยส่งกำลังใจและหวังดีให้พวกเรามาโดยตลอดเช่นกัน"

 


"เมทำงานตรงนี้ เมื่อก่อนมันก็คงทำเพราะคำว่า "หน้าที่" จนตอนนี้มันกลายเป็นความรักความหวังดี พลังที่ยิ่งใหญ่ที่พร้อมจะทำทุกอย่างด้วยหัวใจ และทุ่มให้สุดกำลังใจและกายที่มี เพื่อทุกคนในครอบครัวพรีมายาจริงๆ ยิ่งทุกคนรัก ยิ่งทุกคนเชื่อใจเมมากเท่าไหร่ มันยิ่งทวีคูณพลังของเมที่จะไม่ทำให้คนที่รักเมเสียใจและมันทำให้เมรักทุกคนมากขึ้นทุกวัน"

 

"ปัญหาอุปสรรค ตลอดการทำงาน ทำให้เมได้เรียนรู้ปรับตัวแก้ไข ที่จะเป็นเมเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวันเสมอ จากเด็กคนนึงอายุ22-23 หาเงินใช้เลี้ยงตัวเองได้ จนสามารถแบ่งเบาภาระครอบครัว และภูมิใจที่สุดในชีวิตคือเราสามารถเป็นส่วนนึงที่จะส่งต่อสิ่งดีๆให้โอกาสกับคนในสังคมอีกเยอะแยะมายมาย รู้ตัวอีกทีก็วุ่นๆกับการสร้างตัวมานี่ไม่กี่วันก็จะอายุ30แล้วนะ เวลา7ปีที่ผ่านมา ได้อะไรมาเยอะแยะมากมาย แต่ที่เสียไปก็เป็นอะไรที่ย้อนเอาคืนมาไม่ได้เหมือนกัน มันแลกมาด้วยทุกอย่าง ไม่มีอะไรง่ายเลยจริงๆ"

 

"เมมีวันนี้ได้ มาจากความเข้าใจเสมอที่ว่าอุปสรรคเป็นส่วนนึงของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ขนาดของอุปสรรคมาพร้อมกับขนาดของธุรกิจ เมเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นโดยไม่เคยตั้งคำถามว่าทำไม? เพราะทุกอย่างมันเข้าใจได้จริงๆ ทำงานเยอะโอกาสล้มเหลวโอกาสผิดพลาด โอกาสสำเร็จก็เยอะมากเท่านั้น ทำงานแล้วเจอปัญหา ไม่ว่าจะใหญ่จะเล็ก มันก็เกิดขึ้นได้เสมอค่ะ อย่างเช่นครั้งนี้ก็เช่นกัน
ใครจะมองยังไงไม่รู้ #แต่ปัญหาครั้งนี้ ไม่ต้องใช้ใจ มารักกันหรือพยายามเข้าใจกันก็ได้ คงสังเกตจากกระทำ เจตนาได้ไม่ยาก ว่าที่ผ่านมาเราบริสุทธิ์ใจมากแค่ไหนและไม่เคยมีเจตนาไม่ดีในการทำธุรกิจเลยสักครั้งเดียวในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงทำสิ่งไม่ดีหรอกนะ"

 


"เมเชื่อว่า ไม่ว่าจะปัญหาไหนๆที่เข้ามา เมผ่านไปได้อย่างแข็งแกร่งแน่นอน เมพร้อมที่จะเติบโต เมรักการทำงาน หน้าที่การงานตรงนี้ มันกลายเป็นจิตวิญญาณไปแล้ว เมอยากให้หนึ่งชีวิตนี้ชีวิตเดียวที่เมมี มีคุณค่ามากที่สุดเท่าที่เมจะทำได้ ในอนาคตข้างหน้าคงมีอะไรให้เราเรียนรู้ ปรับปรุง พัฒนาอีกเยอะแยะมากมาย มันก็ถูกแล้วค่ะ ทำงานเนอะ มันก็ต้องมีปัญหาให้เราแก้ ต้องมีเรื่องที่ไม่รู้ให้เราได้รู้อยู่ตลอดแหละ"

 

"ขอขอบพระคุณอีกครั้งกับทุกความหวังดี ทุกกำลังใจ ความรักความเมตตาคนคนนี้ ผู้หญิงคนนี้มันรักดีอยู่แล้ว พร้อมจะเรียนรู้ พร้อมจะเรียนผูกเรียนแก้ ใช้ชีวิตกันต่อไป เพื่อจะเติบโตอีกมากมายบนโลกใบนี้
มันจะผ่านไปได้ เหมือนกับ ที่ผ่านๆมาได้ตลอดนั่นแหละ"