ไม่จบง่าย ๆ "ทนายตั้ม" แฉซ้ำสินสอดทิพย์จัดฉากหมั้นเพื่อเอาตัวรอด ขณะที่เพจดังเปิดแช็ต "อดีตรองนายกฯ" ไหนว่าไม่รู้ว่า ฝ่ายหญิงมีสามีอยู่แล้ว ??

จากกรณีดราม่าชู้สาวสะเทือนวงการการเมือง หลังจากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมาเปิดโปงอดีตรองนายกรัฐมนตรี "ย" คบชู้กับภรรยาชาวบ้าน ขณะเดียวกันก็ปรากฏว่า รองนายกฯ คนดังกล่าว ได้ฟ้องคดีฉ้อโกงทั้งครอบครัว ประกอบด้วย สามี ภรรยา (หญิงที่คบหากับอดีตรองนายกฯ ย) พ่อและแม่ของฝ่ายหญิง โดยตำรวจ สน.บางยี่ขัน ได้ทำสำนวนฟ้องพร้อมส่งตัวผู้ต้องหา 3 คน ต่ออัยการไป โดยฝั่งอดีตรองนายกฯ อ้างว่าเป็นขบวนการเพื่อหวังตบทรัพย์ และไม่รู้มาก่อนว่าฝ่ายหญิงมีสามีอยู่แล้ว


ล่าสุด (12 ม.ค.65) เพจดังได้มีการเปิดเผยแช็ตเพิ่มเติมเป็นการสนทนาระหว่าง ฝ่ายหญิงและอดีตรองนายกฯ ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่า อดีตรองนายกฯ รู้อยู่แล้วว่าฝ่ายหญิงมีสามีอยู่แล้ว ขณะที่นายษิทรา ได้ให้ข้อมูลเพิ่มระบุว่า วันนี้ตนเองและนายก. จะเดินทางไปที่สน.บางยี่ขัน เพื่อแจ้งความกลับฝั่งอดีตราองนายกฯ ในข้องหาแจ้งความเท็จให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา และให้การเท็จ จากกรณีอดีตรองนายกฯออกมาระบุว่ามีการให้สินสอดและหมั้นกับฝ่ายหญิง ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นทั้งหมดไม่เป็นความจริง ซึ่งอดีตรองนายกฯมีภรรยาจดทะเบียนสมรสอยู่แล้วไม่มาสารถหมั้นหรือแต่งซ้อนได้ แต่หลังจากเรื่องดังกล่าวเป็นข่าวออกมา ฝ่ายอดีตรองนายกฯและภรรยาได้ไปจดทะเบียนหย่าที่สำนักงานเขตดุสิตเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 66 เพื่อจะให้เข้าข้อกฎหมายว่าตนเองมีสิทธิ์เรียกสินสอดคืนตามที่มีการแจ้งความ ซึ่งในข้อเท็จจริงไม่สามารถทำได้เพราะเรื่องได้เกิดขึ้นก่อนแล้ว และต่อมาวันที่ 11 ม.ค. 66 อดีตภรรยารองนายกฯ ได้กลับไปที่เขตดุสิตอีกครั้งเพื่อทำบัตรประชาชนใหม่กลับไปใช้นามสกุลเดิม

 

ทั้งนี้ย้ำว่าด้วยหลักฐานที่มียืนยันว่า อดีตรองนายกฯ รู้อยู่แล้วว่าฝ่ายหญิงมีสามีอยู่แล้ว มีทั้งแช็ตภาพและคลิป มั่นใจว่านายก. ได้รับความเป็นธรรมแน่นอน

 

นายษิทรา ยังย้ำอีกว่าเรื่องการหมั้นกับฝ่ายหญิงไม่เป็นความจริง เป็นการจัดฉากขึ้นมา พร้อมขอท้าว่าหากเป็นความจริงขอให้ปล่อยภาพออกมาเลย ส่วนกรณีรายงานข่าวที่ระบุว่าอดีตรองนายกฯคบหากันตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วตั้งแต่สมัยฝ่ายหญิงเป็นแคดดี้ ซึ่งปัจจุบันฝ่ายหญิงอายุเพียง 25 ปี ถ้าหากย้อนไป 10 ปีที่แล้วฝ่ายหญิงจะอายุเพียง 15 ปี ย่อมเป็นไปไม่ได้