อาศัยห้องน้ำโรงเรียนเป็นที่พักยาไอซ์ จำนวน 31 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 6 ล้าน

วันที่ 5 มกราคม 2566 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรมุกดาหาร  นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร   พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวการบุกจับกุมพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่  ยาไอซ์ จำนวน 31 กิโลกรัม (ถุงละ1กิโลกรัม 31 ถุง) มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท

 

สืบเนืองจาก เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 18.00 น.  พ.ต.ท.สุทธิศักดิ์ สอนสะอาด หัวหน้า.ชุดปฏิบัติการยาเสพติด สภ.เมืองมุกดาหาร กวดขันปราบปรามจับกุม ยาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำกำลังหน่วยบูรณาการในพื้นที่ ได้ร่วมกัน จับกุมตัว นาย ศุภกรอายุ 25 ปี พร้อมด้วยของกลาง ประกอบไปด้วย   1.ยาไอซ์ จำนวน 31 กิโลกรัม (31 ถุง)   2.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU สีขาว จำนวน 1 คัน  3.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO จำนวน 1 เครื่อง  พร้อมกับ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร TMB ของ นายศุภกร จำนวน 1 เล่ม 

 

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าจะมีคนนำยาเสพติด มาซ่อนไว้ที่บริเวณห้องน้ำร้างภายใน โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน ต.คำอาฮวน  อ.เมืองมุกดาหาร  จ.มุกดาหาร จึงได้ไปตรวจสอบพบลังกระดาษสีน้ำตาล จำนวน 2 ลังอยู่ภายในห้องน้ำดังกล่าว ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นยาไอซ์ จำนวน 31 ถุง จึงได้วางกำลังดักชุ่มอยู่บริเวณดังกล่าว  กระทั่งมีรถกระบะสี่ประตูสีขาว วิ่งเข้ามา และได้มีคนลงมาจากรถ เพื่อที่นำของกลางไปขึ้นรถ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบ ทราบชื่อว่า นายศุภกร พร้อมกับตรวจสอบภายในลังกระดาษ ต่อหน้านายศุภกร พบว่าเป็นยาไอซ์

 

สำหรับยาไอซ์นั้นจะบรรจุไว้ในซ่องกาแฟสีเขียวซึ่งเมื่อสังเกตแล้วจะมีภาษาจีนอยยู่บริเวณซองดังกล่าวซึ่งจะมีการห่อจำนวน 2 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นกระดาษกาวส่วนชั้นที่ 2 ก็จะเป็นซองกาแฟขนาดใหญ่พร้อมกับมียาไอซ์อยู่ด้านในเมื่อนำมาชั่งก็จะมีน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัมต่อถุง มูลค่ากิโลละ 2 แสนบาท

 

นายศุภกร รับว่าตนได้ รับจ้างให้มารับยาไอซ์ดังกล่าวจริง โดยหากทำงานสำเร็จจะได้ค่าจ้าง 15000 บาท  จึงได้ควบคุมตัวนายศุภกรพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ดำเนินการตามกฎหมาย

 

โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาไอซ์)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน อันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และชุดปฏิบัติการปราบปรามยา เสพติดจะได้สืบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป