"ชูศักดิ์" เย้ย "ประยุทธ์" อยากเป็นนายกฯ ต่อก็พูดมาตรง ๆ ไม่ต้องอ้างโน่นนี่ ฝากถึง พปชร. "ตู่" ควรถอนตัวจากการเป็นแกนนำรัฐบาล จี้ยกเลิก ม.272 คืนอำนาจให้พรรคการเมือง

วันที่ 23 ธ.ค.65 นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศเป็นสมาชิก และจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยอ้างว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งเคยเสนอชื่อตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีได้ประกาศให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไปแล้วนั้น ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงการเมืองไทยในกะลา (ครอบ) ถอยหลังลงคลอง อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ถ้าตนเองเป็นพลังประชารัฐจะทบทวนการเป็นรัฐบาล ทั้งนี้การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พลังประชารัฐเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯทั้ง ๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ มิได้เป็นแม้แต่สมาชิกพรรคตนเองจึงต้องไปอยู่พรรคอื่น เป็นการให้เหตุผลที่ไม่มีตรรกะอะไรเลย จริง ๆ ตนเองอยากจะเป็นนายกฯ ต่อก็ให้เหตุผลไปตรงไปตรงมาไม่ต้องไปอ้างว่าพลังประชารัฐเสนอชื่อคนอื่น เหมือนว่ามิได้เสนอชื่อตนเอง จะเสนอชื่อได้อย่างไร ใคร ๆ เขาก็รู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองว่าแตกกันมานานแล้ว

นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนเองขอฝากถึง พรรคพลังประชารัฐในฐานะที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา เมื่อพรรคของตนเองเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงให้เห็นว่าไม่ประสงค์จะช่วยพรรคพลังประชารัฐอีกต่อไปแล้ว ควรจะแสดงเจตนาถอนตัวจากการเป็นแกนนำรัฐบาลเพื่อแสดงความรับผิดชอบที่ตนเองเป็นฝ่ายเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาล การประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมือง ในขณะที่รับรู้กันว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯมาแล้วแปดปี ถ้าจะเป็นนายกฯ อีกก็เป็นได้เพียงสองปี ประชาชนทั่วไปรับรู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศมาแปดปี ผลสำรวจของประชาชนตลอดมาก็รับรู้กันว่าเป็นเช่นไร กรณีจึงอดคิดไม่ได้ว่าอาจมีการใช้อำนาจแย่งชิงการจัดตั้งรัฐบาลโดยสวนกระแสความต้องการของประชน คล้าย ๆ การเลือกตั้งที่ผ่านมา และจะเป็นเรื่องที่ท้าทายต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง

"คณิตศาสตร์ทางการเมืองขณะนี้มีว่าพรรคการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปอยู่นั้นจะมีคะแนนเสียงเป็นกอบเป็นกำที่จะอ้างความชอบธรรมสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ บางท่านถึงกับวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะได้ถึง 25 เสียงหรือไม่ กรณีเช่นนี้หนีไม่พ้นว่าจะต้องอาศัยเสียงของส.ว.เข้ามาช่วยสนับสนุนร่วมโหวตให้เป็นนายกฯ ถึงจะได้เป็น จึงขอฝากถึงพรรคการเมืองทั้งหลายช่วยกันสนับสนุนกรณีขอยกเลิกมาตรา 272 ให้อำนาจการจัดตั้งรัฐบาลมาอยู่ในอำนาจดุลพินิจของพรรคการเมืองด้วยกันเถิด และขอฝากถึงท่าน ส.ว.ทั้งหลายว่าครั้งก่อนท่านโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐในครั้งนี้เปลี่ยนพรรคแล้วท่านยังจะโหวตให้อีกหรือไม่ ทางที่ดีที่สุดเพื่อความยุติธรรม เสมอภาค ไม่มีตัวช่วย การเมืองเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ให้โอกาสกันมาตั้งแปดปีแล้ว ช่วยกันยกเลิกมาตรา 272 จะเป็นทางออกของประเทศที่ดีที่สุด" นายชูศักดิ์ กล่าว