รับสารภาพแล้ว คนใกล้ชิด พา "ประสิทธิ์ เจียวก๊ก"หลบหนี พร้อมเผยขั้นตอน ขณะที่ตำรวจแจ้งข้อหาหนัก

กรณี นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก จำเลยในคดีฉ้อโกงประชาชนกับพวกรวม 2 คน ขณะถูกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ควบคุมตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อมาให้การที่ห้องพิจารณาคดี ของศาลอาญารัชดาและทำทีขออนุญาตไปห้องน้ำ ก่อนจะพยายามหลบหนี กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลติดตามจับกุมตัวได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ของวันที่ (22 ธ.ค.) ซึ่งภายหลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนพบว่ามีผู้ให้การช่วยเหลือในการหลบหนีและถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้

พ.ต.ท.ธเนศ ศรีจำปา รอง ผกก.สส.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า ฝ่ายสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมา 3 คน เป็นชายคนสนิท 1 คน สาวเลขาฯ 1 คน และแฟนหนุ่มของเลขาฯ ขณะนี้มีคนรับสารภาพแล้ว 1 คน คือ นายสมประสงค์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดใช้เสื้อผ้าของตนเองเตรียมมาให้นายประสิทธิ์ เปลี่ยนเพื่อหลบหนี ซึ่งมีภาพกล้องวงจรเห็นว่า นายสมประสงค์ถือกระเป๋าเข้าไปในห้องน้ำ แล้วออกมาก่อนที่นายประสิทธิ์จะเข้าห้องน้ำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเป็นผู้สนับสนุน ช่วยเหลือ ให้ผู้ต้องขังหลบหนีการจับกุมจากเจ้าพนักงาน ส่วนเลขาฯ สาวและแฟนหนุ่ม นั้นทางตำรวจกองปราบปรามได้นำตัวไปค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่พักและตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร

ต่อมาเวลา 19.30 น. ที่ สน.พหลโยธิน ตำรวจกองปราบฯ ควบคุมตัว แฟนหนุ่มของสาวเลขาฯ ของ นายประสิทธิ์ นำตัวเข้ามาสอบปากคำที่ห้องฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน โดยระหว่างถูกควบคุมตัวทางเลขาฯ สาวกับแฟนหนุ่ม มีสีหน้าเคร่งเครียด และไม่มีการตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชนอีกด้วย

โดยก่อนหน้านั้น ผู้ต้องสงสัยได้ยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันวางแผนให้การช่วยเหลือนายประสิทธิ์จริง พร้อมกับยอมรับอีกว่า ตามแผนที่วางไว้หากสามารถพาตัวนายประสิทธิ์ ออกจากศาลได้จะพาไปที่ห้องพักย่านสามย่าน เพื่อเปลี่ยนชุดปลอมตัวอีกครั้ง จึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวไปตรวจค้นยังสถานที่ดังกล่าวเป็นการด่วน

ผู้สื่อข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับกรณีที่ นายประสิทธิ์ พยายามหลบหนีออกจากศาลนั้น เบื้องต้นในวันนี้ทางกรมราชทัณฑ์ได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความเอาผิดไว้ที่ สน.พหลโยธิน แต่เนื่องจากคดีดังกล่าวถือเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ไม่เกรงกลัวกฎหมาย รวมถึงเชื่อว่าน่าจะมีการทำกันเป็นขบวนการ วางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี ทางกองปราบฯจึงพร้อมที่จะรับโอนคดีดังกล่าวมาทำการสืบสวนสอบสวน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งทาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. จะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับคดีดังกล่าวอีกครั้ง ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ในวันพรุ่งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกด้วยว่า อย่างไรก็ตามแม้ขณะนี้ทางกองปราบจะยังไม่มีอำนาจในการเข้าไปสอบสวน เนื่องจากต้องรอให้มีการโอนคดีเสร็จสิ้นก่อนนั้น แต่เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปด้วยความรอบครอบและรัดกุม จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 บก.ป. ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมในส่วนของการสืบสวนพยานหลักฐานต่างๆนั้น มีความคืบหน้าไปพอสมควร