อุทาหรณ์สายปิ้งย่าง! สาววัย 17 กินหมูกระทะ ไม่แยกตะเกียบ ติดเชื้อโรค "ไข้หูดับ" อาการโคม่า โอกาสกลับมาเป็นเหมือนเดิม 50-50

วันที่ 13 ธ.ค.65 จากกรณีมีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งได้โพสต์คลิปเตือนภัยใกล้ตัว อันตรายถึงชีวิต บอกเล่าเรื่องราวของน้องสาวที่ไปรับประทานหมูกะทะ ก่อนจะติดเชื้อ “สเตรปโตคอคคัส ซูอิส” หรือ “โรคไข้หูดับ”

โดยในคลิปดังกล่าวพี่สาวได้บอกไทม์ไลน์น้องสาวเอาไว้ว่าวันที่ 18 พ.ย. 65 ไปกินหมูกะทะกับครอบครัว 26 พ.ย. 65 น้องสาวเริ่มมีอาการซึม 27 พ.ย. 65 ไปโรงเรียนตามปกติเเต่มีอาการอาเจียนกินยาตามอาการ

28 พ.ย. 65 เวลา 04.00 น. เคาะห้องแจ้งเเม่บอกว่าไม่สบายก่อนจะวูบหมดสติไปประมาณ 30-40 วินาที พ่อเเม่รีบพาส่งรพ.เอกชนใกล้บ้าน เเต่หมอไม่รับตัวไว้เพราะบอกกับญาติว่า น้องสาวเเค่เพลียเพราะอาหารเป็นพิษต้องกลับมาดูอาการที่บ้าน ทั้งวันน้องมีไข้ต่ำ ๆ

29 พ.ย. 65 น้องมีไข้สูงจนเวลา 22.00 น. เเม่ต้องพยุงไปเข้าห้องน้ำเพราะน้องไม่มีเเรงเดิน เล็บมือเล็บเท้า ใต้ตาคล้ำ ก่อนจะหมดสติ พ่อเเม่รีบนำตัวส่ง รพ.เข้าห้องไอซียู

30 พ.ย. 65 เวลา 02.00 น. น้องสาวดิ้นไม่รู้สติกรีดร้อง กว่าจะจับใส่เครื่องช่วยหายใจเเละเจาะเลือดได้ต้องใช้เวลานาน จนช่วงเช้าถึงรู้ผลว่า น้องสาวติดเชื้อในกระแสเลือด หมอเจาะไขสันหลังไปตรวจพบเชื้อ “สเตรปโตคอคคัส ซูอิส” หรือ “ไข้หูดับ” เเม่ทำเรื่องของส่งตัวน้องไป รพ.เอกชน อีกเเห่งที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องสมอง ผลตรวจตรงกันน้องติดเชื้อไข้หูดับจริง

อาการยัง 50 50 ขณะนี้น้องสาวของเธอ ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู อาการเบื้องต้นขึ้น ๆ ลง ๆ มีการตอบสนองเล็กน้อย ต้องดูอาการต่อไป เเต่ครอบครัวเริ่มสู้ค่าใช้จ่าย รพ.เอกชนไม่ไหว ขอชาวเน็ตช่วยหา รพ.รัฐ

จนกระทั่งช่วงค่ำ ของวันที่ 8 ธ.ค. ทางน้องสปาย วัย 17 ปี ได้ถูกส่งตัวต่อมาที่สถาบันประสาทวิทยากรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 9 ธ.ค. อาจารย์แพทย์ของสถาบันประสาทได้เข้ามาดูอาการของลูกสาว โดยให้รายละเอียดกับตนว่าเป็นเคสที่หาได้ยาก เนื่องจากน้องสปายยังอายุน้อยอยู่ในวัยที่กำลังมีเรี่ยวมีแรง เเข็งเเรง และไม่มีโรคประจำตัว ไม่น่าเชื่อว่าจะติดเชื้อในกระแสเลือดจนทำให้เชื้อขึ้นสมอง ก่อนจะมีการใช้เครื่องสวนเข้าไปในสมองเพื่อสลายลิมเลือด แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จจะต้องให้ยาสลายลิ่มเลือดใหม่อีกครั้ง

ขณะนี้น้องสปาย ป่วยเป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว แต่ยังไม่ได้สตินอนเป็นเจ้าหญิงนิทราต้องให้อาหารทางสายยาง และจะต้องมีการเจาะคอ เพราะเกรงว่าจะมีการติดเชื้อแทรกซ้อน ทำได้เพียงแค่รอคอยปาฏิหาริย์เท่านั้น ส่วนน้องสปายจะกลับเป็นเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ยังตอบได้แค่ว่า 50:50

ทั้งนี้ทีมข่าวออนไลน์ช่อง8 ได้หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเชื้อ “สเตร็พโตค็อกคัส” โดยทางกรมควบคุมโรค ระบุว่า สเตร็พโตค็อกคัส ซูอิส เกิดได้จากทานหมูดิบ เนื่องจากเป็นโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตร็พโตค็อกคัส
ซูอิส ซึ่งเป็นแบคทีเรียแกรมบวกอาศัยอยู่ในสุกร เมื่อติดต่อมาสู่คนก่อให้เกิดอาการรุนแรงได้เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และการติดเชื้อในกระแสเลือด นอกจากนั้นยังก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา ผู้ป่วยบางราย สูญเสียการได้ยิน เดินเซ เสียการทรงตัว ข้ออักเสบ หรือบางรายก็เสียชีวิตก่อนเวลาอันควร เนื่องจากโรคนี้ก่อให้ เกิดผลลัพธ์ในระยะยาวต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการสูญเสียการได้ยินอย่างถาวร และสูญเสียการทรงตัวในการเคลื่อนไหว จึงเป็นโรคที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตค่อนข้างมาก

สุดท้ายอยากจะฝากทุกคน ๆ ให้เคสของน้องสปายเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่กินหมูกระทะบ่อย ๆ ขอให้แยกตะเกียบในการคีบเนื้อหมูดิบและเนื้อหมูสุก หรือหากใช้ตะเกียบเดียวกัน ขอให้มีการจุ่มน้ำร้อนในกระทะเพื่อฆ่าเชื้อก่อน