ผิดไปแล้ว "ครูแก้ว" ยกมือไหว้ขอโทษกลางสภา รับปราศรัยเพลิน เผลอพลั้งปากด่า "ไอ้โง่" อ้างพูดในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ไม่ใช่ รองปธ.สภาฯ

วันที่ 7 ธ.ค.65 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้เปิดให้สมาชิกหารือความเดือดร้อนของประชาชน แต่ นายพัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ขอหารือว่า เมื่อ 3-4 วันที่แล้ว มีรองประธานสภาฯ บางท่าน ไปทำความเสื่อมเสีย ทำให้เกียรติภูมิของสภาเสียหาย ใช้สรรพนามกับสมาชิกว่า เป็นคนโง่ คำว่าโง่ บัญญัติในพจนานุกรม ก็คือโง่ และเพิ่มเขลา เข้าไปอีก ซึ่งแปลเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ตนเองอยากชี้ให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น สภาจะทำอย่างไร เพื่อรักษาเกียรติภูมิของสภาไว้

นายชวน จึงชี้แจ้งว่า ตนเองทราบเรื่องจากข่าว ซึ่งเป็นเรื่องภายนอกห้องประชุมสภาฯ ความจริงก็ไม่ได้เป็นครั้งแรก ครั้งก่อน ๆ ก็มีคนไปพูดในลักษณะลดความสำคัญของพรรคอื่น คนอื่น แต่ถ้าเป็นกรณีที่อยู่ในสภาฯ นี้ ก็เป็นหน้าที่สภาฯ จะต้องถกกัน ถ้าอยู่ข้างนอก ก็ว่าไปตามสิทธิของแต่ละฝ่าย ถึงแม้ไม่เอ่ยชื่อ แต่สมาชิกหมายถึง นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ซึ่งมีฐานะที่เป็นรองประธานฯ ทำให้ท่านมีภาระหนักกว่า ส.ส.ธรรมดา การประพฤติปฏิบัติก็ต้องอยู่ในกรอบที่ระเบียบกำหนดเอาไว้ ตนเองจึงอนุญาตให้พัฒนา พูด เพราะทราบว่านายศุภชัยก็อยากขอหารือเพื่อที่จะขออภัย ขอโทษสมาชิก เช่นกัน

ด้านนายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า 2 วันมานี้ ชาวบ้านโทรศัพท์มาถามว่าศักดิ์ศรีของคนสกลนครมีแค่นี้หรือ ขนาดรองประธานสภาฯ บอกว่า โง่ มันเสียเปรียบ และนี่คือความเสียหายของคนสกลนคร ตนเป็น ส.ส. แล้วนิ่งเฉยโดยไม่มาพูด ไม่ประกาศให้ชาวโลกรับรู้ก็เหมือนกับคนเมืองตรัง ก็ต้องพูดสักหน่อย เพราะบ้านตนไม่ใช่คนโง่อย่างที่หลายคนเข้าใจ

ต่อมานายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ชี้แจงว่า ตนมีโอกาสเปิดเวทีปราศรัยหาเสียง เปิดตัวผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ที่ จ.นครพนม และตนก็เป็นคนขึ้นปราศรัยหาเสียง แต่ปรากฏว่าในขณะที่ปราศรัยอยู่นั้น ตนต้องยอมรับตรงๆ ว่า อาจจะเพลินไปหน่อย ท่ามกลางบรรยากาศที่พี่น้องมากมาย ก็คงจะยืนยันกับประธานฯ และสมาชิกว่า คำพูดที่สมาชิกทั้งสองท่านพูด นั้นตนรับในสภาฯ ว่าตนได้พูดจริง แต่ตนไม่ได้หมายถึงว่าเป็นการพูดกล่าวหาพี่น้องสกลนครโง่ อยากจะให้ทั้งสองท่านไปเปิดคลิปดูใหม่ได้

"ผมยันยันว่าในวันนั้นผมปราศรัยกับพี่น้องประชาชนในฐานะที่เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้ไปปราศรัยในฐานะที่เป็นส.ส.หรือรองประธานสภาฯ แต่ในเมื่อตัวผมได้พูดไปแล้ว พลาดพลั้งไปแล้ว หรือผิดไปแล้ว ผมยอมรับกับประธานฯ ฝากไปถึงสมาชิกทั้งสองท่านและทุกๆท่านที่เกี่ยวข้องด้วยว่าผมกราบขออภัยในสิ่งที่ผมพูดขึ้นมา และกราบขอโทษเพื่อน ๆ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ