"ธนาธร" นำทัพแจงร่างแก้ไข รธน.ปม กระจายอำนาจ ชี้เพื่อเกิดความเท่าเทียม ใช้งบประมาณพัฒนาท้องถิ่นตามความต้องการประชาชน หากถูกตีตก ก็จะเดินหน้าต่อ ด้าน "ปิยะบุตร" เชื่อ แม้จะแก้คอร์รัปชันไม่ได้ แต่ก็จะน้อยลง

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย นายปิยะบุตร แสงกนกกุล และ นางสาวพรรณิการ์ วานิช ผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในประเด็นการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น  ร่วมกับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 76,591 คน เดินทางมาชี้แจงสภา พร้อมระบุว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีสาระสำคัญ ในการจัดสรรภาษีให้เป็นธรรม ระหว่าง ส่วนกลางกับท้องถิ่นร้อยละ 50 เพื่อให้ท้องถิ่นได้มีอำนาจดูแลสาธารณะประโยชน์ ให้กับ คนในพื้นที่ตามต้องการ ให้เกิดการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ และตรงกับความต้องการของคนในพื้นที่มากที่สุด / เปิดโอกาสให้ท้องถิ่น พัฒนา พื้นที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ กระจายอำนาจให้อย่างเต็มที่ / จัดทำประชามติยุบหน่วยงานส่วนภูมิภาค ไปรวมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

 

ดังนั้น จึงขอให้สมาชิกรัฐสภาสนับสนุน รับร่างในวาระแรกไปก่อนและไปถกเถียกกันในชั้นกรรมาธิการ เพื่อเป็นการปลดล็อกคืนอำนาจให้ท้องถิ่นที่มียาวนาน และหากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ ถูกตีตก ตั้งแต่วาระแรก คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกลก็จะเดินหน้า แนวนโยบาย กระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นนี้ต่อไป และจะใช้เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ใช้หาเสียง ในการเลือกตั้งสมัยหน้า

 

ขณะที่ นายปิยะบุตร ย้ำว่า แคมเปญนี้ ได้รณรงค์มาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่าน ได้รับการสนุน จากองค์กรท้องถิ่น กว่า 7 พันกว่าแห่งทั่วประเทศ พร้อมตั้งข้อสังเกตุ ว่า เหตุใด รัฐสภา จึงบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ทั้งๆ ที่รู้ว่าใกล้จะครบวาระของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ทำให้มองได้ว่ามีความพยายาม ทำให้ กฎหมายฉบับนี้ ตกไปตาม วาระของสภาฯ หรือไม่

 

แต่อย่างไรก็ตาม ในมาตรา 174 ระบุไว้ชัดเจนว่า คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ สามารถนำร่างกฎหมายที่ตกไปแล้ว กลับมาพิจารณาใหม่ได้ หวังว่า นักการเมืองทุกฝ่ายจะให้การสนับสนุน เพื่อให้การกระจายอำนาจ ไปสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง

 

และเชื่อว่า แม้ว่า จะมีการปฏิรูปการกระจายอำนาจไปท้องถิ่นแล้ว ก็ยังมีการ คอรัปชั่น​ แต่ก็มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้นทำให้การคอรัปชั่นเริ่มค่อยค่อยลดน้อยลงตามไป โดยเฉพาะการ กำหนดให้มีสภาพลเมือง ที่จะช่วยคัดกรองตรวจสอบการทำหน้าที่ขององค์กรท้องถิ่น

 

ด้านนางสาวพรรณิการ์ ขอให้ประชาชนจับตา การพิจารณาว่าจะนำไปสู่การปฏิรูปการกระจายอำนาจ ไปสู่ประชาชน เพื่อเปลี่ยนแปลงการบริหารราชการแผ่นดินได้หรือไม่