นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือ รทสช. กล่าวถึงกระแสการแยกตัวของพล.อ.ประยุทธ์ จากพรรคพลังประชารัฐ  และมีแนวโน้มจะมาพรรค รทสช. ว่าเป็นการคาดการณ์  แต่อย่างที่บอกเป้าหมายเหมือนกัน คือ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เอาความสามารถมารวมกันก็สามารถที่มีมาทำงานร่วมกันได้ทั้งนั้น แต่ตอบไม่ได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมาร่วมงานเมื่อไร พรรคไม่ได้เป็นคนกำหนด

 

"หากยังไม่ชัดเจนอะไร ผมไม่กล้าเชิญ เห็นครั้งหลังท่านบอกหลังเอเปค หลังปีใหม่ แต่ท่านจะตัดสินใจเมื่อไร ผมไม่รู้ ต้องถามท่าน ผมไม่กล้าถามเพราะท่านเป็นผู้บังคับบัญชา และการที่นายกฯไม่ชัดเจนก็ไม่กระทบกับกระแสของพรรค"

 

นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวยอมรับว่า ได้มีโอกาสพบนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 พ.ย.65 ท่านสอบถามความเห็นเรื่องกฎหมาย หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา และอีกฉบับคือ ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 30 พ.ย.65 ว่าจะมีผลทางการเมืองอย่างไรบ้าง และรัฐบาลต้องทำอะไรหรือไม่ แต่ไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องความคืบหน้าการทำพรรค รทสช. และนายกฯก็ยังไม่เคยเอ่ยปากถึงเรื่องนี้

 

เมื่อถามถึงกระแสข่าวลือว่าแต่งตั้งนายพีระพันธุ์ เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่าเพิ่งเห็นข่าวเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ตัวเองไม่เคยทราบ ครั้งก่อนที่แล้วบอกมีข่าวปรับคณะรัฐมนตรี จะเสนอชื่อ ก็ไม่มี เพราะมีความสุขกับการทำหน้าที่ตรงนี้  วันนี้ก็เช่นกัน ข่าวที่ออกมาตนก็ไม่ทราบ ตนทำงานการเมือง มีตำแหน่งก็ทำได้ ไม่มีตำแหน่งก็ทำได้ อยู่ที่ใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง

 

เมื่อถามว่า กรณีนางรัตนาวรรณ สุขศาลา แกนนำ นปช. อุดรธานี เข้าร่วมสมาชิกพรรคแสดงว่า สามารถแก้ปัญหาความแตกแยกได้แล้วใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนพูดมาตลอดตั้งแต่ตั้งพรรคว่าเป้าหมายสำคัญ คือเลิกทะเลาะกันได้แล้วรวมใจมาช่วยกันสร้างบ้านเมือง ไม่ว่าจะเสื้อสีอะไรเชื่อว่าในใจลึกๆของทุกคนคือเพื่อชาติบ้านเมืองเหมือนกัน  เหมือนที่ได้คุยกับนางรัตนาวรรณนี่คือความสำเร็จที่อย่างน้อยก็ได้ทำความเข้าใจกันได้ จะร่วมกันทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง 

 

ส่วนพื้นที่อีสาน ตนไม่ได้มองว่าจะเจาะยากหรือเจาะง่าย เพราะต้องการเริ่มต้นความสามัคคี อย่าไปเรียกว่าดึงคนเสื้อแดงมา แต่เป็นการทำความเข้าใจ เพราะทุกคนมีแนวทางของตัวเอง ไม่มีใครดึงใคร จะว่ายากก็ตอบไม่ถูก จะว่าง่ายก็ไม่ใช่ ตอนแรกหวั่นใจว่า จะมีใครมาร่วมงานหรือไม่ แต่ตอนนี้เลยและล้น