"บิ๊กโจ๊ก" ฉุน "ผกก.สุทธิสาร" ปิดเรื่องเงียบนานร่วม 1 เดือน คดีสาวจีนเสพยาจนช็อกตายคาผับย่านรัชดา จนเป็นข่าวฉาวที่จีน เตรียมเอาผิดเจ้าของผับ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนจากสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ร่วมแถลงข่าว กรณีน.ส.โย่วซื่อหัว สัญชาติจีน อายุ32ปี เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วหายตัวไป ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตหลังจากไปเที่ยวที่ ผับทอปวัน ถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง

โดยผู้เสียชีวิตเดินทางเข้ามาประเทศไทย เป็นครั้งแรก ซึ่งมาตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2565 กับเพื่อนผู้หญิงอีก3คน ต่อมาคืนวันที่ 16 กันยายน ทั้งหมดได้เดินทางไปเที่ยวผับดังกล่าว โดยได้ชักชวนเพื่อนผู้ชายมาเพิ่มอีก3คนจากนั้นเวลาประมาณ 01:00 น. ของวันที่ 17 ผู้เสียชีวิตได้มีการอาเจียนช็อคหมดสติ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำร้าน จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลพระราม9 และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ผลชันสูตรเบื้องต้น แพทย์ลงความเห็นถึงสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากพิษของสารเสพติด โดยตรวจพบว่าพบสารแอมเฟตามินภายในร่างกาย คาดว่าจะเป็นสาเหตุส่งผลให้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวเพื่อนชายทั้ง3คน มาสอบปากคำทั้งหมดให้การปฏิเสธในเรื่องการใช้ยาเสพติด จากการตรวจสารเสพติดเบื้องต้นไม่พบสารเสพติดของทั้ง3คน และทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรและผลักดันออกนอกประเทศแล้ว

ส่วนเพื่อนผู้หญิงชาวจีนอีก 3 คน เมื่อทราบเรื่องก็หนีกลับประเทศโดยไม่ได้แจ้งความใดๆ

ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ได้มีชายจีนจำนวน 3 คน พร้อมคนขับรถคนไทยอีก1คน ซึ่งทั้งหมดเป็นคนของสถานบันเทิงดังกล่าว ได้ไปที่ห้องพักของผู้ตายและนำเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวไปเผาทำลายทิ้งทั้งหมด เพื่อทำลายหลักฐานปกปิดความผิด ไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสาวได้ว่าสถานบริการดังกล่าวปล่อยให้มีการใช้สารเสพติด

เบื้องต้นได้สั่งการให้สน.สุทธิสาร ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 4 รายในฐานความผิด ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ทำลายซ่อนเร้นทำให้สูญเสียซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำผิด

"สำหรับการดำเนินคดีกับสถานบันเทิงท็อปวัน ขณะนี้ทราบชื่อเจ้าของแล้ว มีหุ้นส่วนใหญ่เป็นคนจีน มีคนไทยเป็นคณะกรรมการ ต้องตรวจสอบว่า คนไทยเป็นคณะกรรมเป็นนอมินีหรือไม่ ทั้งนี้ที่ท็อปวันเจ้าหน้าที่ไม่เจอยาเสพติด อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้ามีความผิด จะดำเนินการสั่งปิดสถานบริการต่อไป

ส่วน พ.ต.อ.สุธิศักดิ์ พิริยะภิญโญ ผกก.สน.สุทธิสาร ว่ากันตรงไปตรงมา ถือว่ามีความบกพร่องต่อหน้าที่ คดีเกิดมาเป็นเดือนแล้วไม่ได้ทำอะไรสักอย่างจนมีความใหญ่โตที่ประเทศจีน ผบ.ตร. มอบหมายให้ตนมาดำเนินการใช้เวลาสัปดาห์กว่า สามารถคลี่คลายคดีได้" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่านักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและเสียชีวิตผิดธรรมชาติ ข่าวนี้ถูกเผยแพร่อย่างมากในประเทศจีน ญาติของผู้เสียชีวิตติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้ขอประสานความช่วยเหลือจากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายมีการใช้สารเสพติดก่อนเสียชีวิต ซึ่งวันนี้ทางญาติของผู้เสียชีวิตได้เข้าใจถึงสาเหตุการตาย และไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัยและมีความมั่นใจในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ใช้มาตรการเชิงรุกตรวจตราสถานบันเทิง โดยเน้นย้ำสถานบันเทิงทุกพื้นที จะต้องไม่มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี รวมถึงยาเสพติดและอาวุธปืน ในสถานบริการ