ผบช.ภ.9 เผยรวบเพิ่มอีก 3 คน แก๊งปล้นยา เจ้าหน้าที่ อส. โดนหนัก 7 ข้อหา เร่งล่าที่เหลือ

วันที่ 21 ต.ค. 65 ความคืบหน้ากรณีแก๊งค้ายาเสพติด บุกชิงตัวผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ขณะที่ปลัดและ อส. รวม 6 นาย ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง จังหวัดสงขลา พาไปขยายผลล่อซื้อ บริเวณทางเข้าบ้านนิคมร่วมพัฒนา หมู่ 11 ตำบลแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. คืนวันที่ 18 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยได้อาวุธปืนประจำกายของเจ้าหน้าที่ไป 5 กระบอก พร้อมรถเก๋งอีก 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และยาบ้าของกลาง 10 มัด จำนวน 2 หมื่นเม็ด แต่ไม่สามารถชิงตัวผู้ต้องหาไปได้

ล่าสุด พลตำรวจโทนันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เดินทางมาประชุมและติดตามคดีที่ สภ.รัตภูมิ พร้อมเปิดเผยกับสื่อมวลชนหลังประชุมว่า ขณะนี้มีการออกหมายจับคนร้ายแก๊งค้ายาที่ก่อเหตุแล้ว 5 คน และสามารถจับได้แล้ว 3 ใน 5 คน ที่ออกหมายจับ พร้อมกับของกลางคือรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนที่เหลือ อยู่ระหว่างตรวจสอบชื่อจริง ก่อนจะออกหมายจับเพิ่ม ซึ่งจากคำให้การของนายธนกร ผู้ต้องหาที่จับได้ก่อนหน้านี้ และเป็นคนที่กลุ่มคนร้ายพยายามชิงตัว พบว่า มีผู้ก่อเหตุไม่ถึง 10 คน ไม่ใช่ 20 คน ตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้

ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐหรือตำรวจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หรือไม่ ต้องรอสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง

ขณะเดียวกันวันนี้ (21 ต.ค.65) ตำรวจได้คุมตัวนายธนกร ผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจับกุมยาเสพติดก่อนเกิดเหตุชิงตัวไปฝากขังที่ศาล จังหวัดสงขลา โดยระหว่างที่นำตัวออกมา ผู้สื่อข่าวก็พยายามสอบถามเกี่ยวกับแก๊งที่พยายามมาชิงตัว แต่นายธนกรก้มหน้านิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไร ตอบอะไร ส่วนผู้ต้องหาที่คุมตัวได้ล่าสุดยังไม่มีการนำตัวเข้ามาที่ สภ.รัตภูมิ คาดว่ากำลังขยายผล

เบื้องต้นผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ โดน 7 ข้อหาหนัก คือปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือยู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธ เป็นอั้งยี่ ช่องใจร ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ใด้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปีนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณืและโดยไม่มีเหตุอันสมควร ปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแห่งการกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม