เสมียนธุรการหญิงแฉถูกนายทหารลวนลาม บุกบ้านพักพยายามข่มขืน ฝ่ายหญิงอ้างมีประจำเดือน หลอกล่อจนรอดหวุดหวิด แต่กลับถูกทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชากลับบอกให้ใจเย็น ๆ กินข้าวหม้อเดียวกัน อย่าทำให้หน่วยเสียหาย

 

วันที่ 14 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "กัน จอมพลัง" พร้อมผู้เสียหายติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สภ.ลาดหญ้า จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ

ด้านผู้เสียหาย ทำงานเป็นเสมียนธุรการในค่ายทหารแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกาญจนบุรี โดยนางสาวออย กล่าวว่า คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านพักของตัวเองในค่ายทหาร ช่วงเช้าวันที่ 24 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา ขณะกำลังเปลี่ยนชุดเพื่อออกไปราชการกับหัวหน้า อยู่ ๆ หมู่อ๊อฟ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในค่ายทหารเดียวกัน บุกเข้ามาที่บ้านพร้อมบอกว่า "ขอดูบ้านหน่อย ผัวพี่อยู่ไหม ผมขอมีอะไรด้วยทีนึง แป๊ปเดียวผมก็เสร็จ" ด้านผู้เสียหายตกใจและต่อว่าหมู่อ๊อฟไป แต่ก็ไม่ยอมหยุด ปรี่เข้ามาพยายามจะข่มขืน ซึ่งเธอพยายามดิ้นขัดขืนสุดกำลัง แต่สู้แรงผู้ชายไม่ไหว

โดยผู้เสียหายเปิดเผยอีกว่า แม้กระทั่งกำลังเป็นประจำเดือน บอกว่ามีลูก มีสามีแล้ว หยุดเถอะ แต่หมู่อ๊อฟยังไม่ยอมหยุดพยายามล้วงมือเข้าไปถอดกางเกงใน และพยายามสอดใส่อวัยวะเพศ จนเห็นว่าเป็นประจำเดือนจริง ๆ ซึ่งผู้เสียหายหลอกล่อว่า ขอให้หมดประจำเดือนก่อน ค่อยทำวันหลัง และไปทำที่อื่น ที่นี่เป็นบ้านพักในค่ายทหาร พูดกล่อมจนผู้ก่อเหตุยอมปล่อย ซึ่งนาทีนั้นตนเองรีบคว้าโทรศัพท์มือถือและถ่ายคลิปไว้ได้เพียงสั้น ๆ ก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนบ้านเข้าห้องปิดประตูล็อก แล้วโทรศัพท์ให้คนมาช่วย นอกจากนั้นผู้เสียหายยังเคยถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย แต่พอสามีและครอบครัวทราบเรื่องก็ให้กำลังใจ

ด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องมาช่วยคดีเพราะผู้เสียหายกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในรั้วทหาร เคยมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว แต่เรื่องก็เงียบไปจึงกังวลว่าผู้ก่อเหตุจะได้รับการช่วยเหลือ

อีกทั้งผู้ก่อเหตุเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง และผู้เสียหายส่วนใหญ่ก็จะเป็นเสมียนหญิงในที่ทำงาน ทำทีจะชวนไปกินข้าวแล้วก็ลวนลาม พยายามขอมีอะไรด้วย บางคนรอดมาได้ก็ไม่กล้าแจ้งความเพราะกลัวอับอาย

เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อหาบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ กระทำอนาจาร และพยายามข่มขืน มีพยานหลักฐานครบถ้วน แต่เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในรั้วทหาร อาจจะมีติดเรื่องระเบียบขั้นตอนต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความล่าช้าไปบ้าง ซึ่งเมื่อวานนี้ (13 ก.ย. 65) ทางตำรวจได้ทำหนังสือถึงต้นสังกัดทหารนายนี้ เพื่อตรวจสอบสถานภาพทางทหารของผู้ก่อเหตุ ก่อนจะเรียกตัวมาสอบปากคำ เพื่อรวบรวบทำสำนวนส่งฟ้องศาลทหาร โดยผู้กำกับการ สภ.ลาดหญ้า ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน พร้อมยืนยันว่า ตำรวจแยกแยะได้ จะไม่ยอมให้มีการแทรกแซงคดีเด็ดขาด

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางหน่วยได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังกองทัพบกแล้ว ซึ่งน่าจะมีการออกมาชี้แจงผ่านกองทัพบกในเร็ว ๆ นี้