ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 2 ปี "เมธี" อดีตนักแสดง-แนวร่วม นปช. คดีฉกปืนทหารเหตุชุมนุมปี 52 เจ้าตัวยื่นขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์

 

วันที่ 15 ส.ค. 2565 ที่ห้องพิจารณา 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีครอบครองอาวุธปืน ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเมธี อมรวุฒิกุล หรือนายณชิต อำนาจเดชานนท์ อายุ 51 ปี อดีตนักแสดงชื่อดัง และอดีตแนวร่วม นปช. เป็นจำเลยในความผิดตาม พรบ.อาวุธปืนฯ

อัยการโจทก์ระบุฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 เวลาประมาณ 18.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารบก สังกัดกองทัพบก ผู้เสียหาย ได้เข้าขอคืนพื้นที่จากผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้นำอาวุธปืนเล็กกล ยี่ห้อทราโว่ ขนาด 223 (5.56 มม.) พร้อมซองกระสุนปืน ตลอดจนทรัพย์สินอื่น ๆ อีกรวม 11 รายการของผู้เสียหาย ติดตัวไปใช้ในราชการด้วย ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารบกเกิดการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. แล้วมีกลุ่มคนร้ายหลายคนได้ร่วมกันเอาทรัพย์ไปในเวลากลางคืน เอาอาวุธปืนเล็กกล ยี่ห้อทราโว่ จำนวน 13 กระบอก ซองกระสุนปืน 50 ซอง ตลอดจนทรัพย์สินอื่น ๆ ราคารวม 69,313 บาทของผู้เสียหาย ไปโดยทุจริต

ต่อมาวันที่ 22 เม.ย. 2553 เวลาประมาณ 05.45 น. ภายหลังร่วมกันชิงอาวุธแล้ว เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยได้ พร้อมอาวุธปืนเล็กกล ยี่ห้อทราโว่ ขนาด 223 จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุนปืน 5 ซอง อันเป็นทรัพย์บางส่วนของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายร่วมกันเอาทรัพย์ไปในเวลากลางคืน พร้อมกระสุน จำนวน 92 นัด อาวุธปืนพกสั้นรีวอลเวอร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกของผู้อื่น พร้อมกระสุนปืน 41 นัดที่ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ที่จำเลยกับพวกขับมา เจ้าพนักงานตำรวจจึงยึดทรัพย์ทั้งหมดไว้เป็นของ
กลาง พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยเหตุเกิดที่แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า คดีนี้โจทก์มีประจักษ์พยานเป็น พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ และเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจำเลยได้ พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ที่อยู่ภายในรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน ซึ่งจำเลยเป็นคนขับกลับมาที่คอนโดมิเนียมย่านคลองสาน เชื่อว่าเจ้าพนักงานตำรวจเบิกความไปตามจริง โดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ส่วนที่จำเลยอ้างว่ารถกระบะดังกล่าวยืมมาจากคนรู้จักประมาณ 1 เดือนก่อนวันเกิดเหตุ เพื่อนำมาขนอาหารสัตว์ โดยไม่ทราบว่ามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนอยู่ภายในรถ และอาจจะเป็นอาวุธปืนของบุคคลอื่นนั้นฟังไม่ขึ้น

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน พ.ศ.2490 มาตรา 78 จำคุก 3 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลย 2 ปี และให้ริบกระสุนปืนของกลาง ภายหลังฟังคำพิพากษานายเมธี จำเลยได้ให้ทนายความยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 3 แสนบาท เพื่อประกันตัวระหว่างอุทธรณ์สู้คดี