ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ยืนยัน "เสี่ยบี" เป็นเจ้าของผับเมาท์เทนบีตัวจริง ดำเนินการขอใบอนุญาต เปิดบริการต่อเติมเองทุกอย่างตั้งแต่ต้น ปัดเป็นนอมินี ตรวจสอบยังไม่พบคนมีสีเกี่ยวข้อง

พลตำรวจตรีอรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับพลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจชุดคลี่คลายคดีไฟไหม้เมาท์เทนบี ผับ นานกว่า 2 ชั่วโมง ว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐาน จนถึงขณะนี้ยังไม่พบข้าราชการหรือคนมีสี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดผับ "เมาน์เทน บี" ยืนยันว่านายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือ "เสี่ยบี" ผู้ต้องหาที่ตำรวจจับกุมเป็นเจ้าของผับตัวจริง ตั้งแต่การเริ่มก่อสร้าง ขออนุญาต ดำเนินกิจการ ต่อเติมร้าน มาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ตาม พรบ.ควบคุมอาคาร หากพบว่าเข้าข่ายความผิดใด ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

ส่วนประเด็นที่มีพยานบอกว่าช่วงสองเดือนที่ผ่านมา มีตำรวจเข้าไปตรวจสอบผับ 3 ครั้ง แต่ไม่ได้ดำเนินการ เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น สำหรับในเรื่องนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ยืนยันหากพบว่าใครเกี่ยวข้องกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมดไม่มีละเว้น

ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม จะมีการนำเครนไปรื้อเมทัลชีสหลังคาผับออก หลังพบการยุบตัวช่วงกลางอาคาร และเพื่อให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในอย่างละเอียด

สำหรับกรณีที่มีการเรียกสอบปากคำเจ้าหน้าที่รัฐ 2 คน คือ หัวหน้าแผนกขยายเขตระบบไฟฟ้า กองกิจการไฟฟ้าทหารเรือ ที่รับผิดชอบระบบไฟฟ้าในพื้นที่ และนายช่างโยธาชำนาญงานประจำเทศบาลเมืองสัตหีบ ที่รับผิดชอบเรื่องงานขออนุญาตก่อสร้างและโครงสร้าง เป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน ส่วนจะมีความบกพร่องหรือไม่ ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานก่อน

นอกจากนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบสถานบริการทั่วทั้งจังหวัดชลบุรี เรื่องการขอใบอนุญาตเปิดสถานบันเทิง รวมถึงระบบความปลอดภัยต่างๆ