รวบแล้ว! โจรตระเวนย่องเบาลักทรัพย์ตามร้านนวด ย่านสุขุมวิท ขณะที่ตำรวจสอบสวน สน. ลุมพินี แกะรอยจากวงจรปิดตามจับคาห้องพักย่านสำโรง ยึดของกลางเพียบ เจ้าตัวรับสารภาพเพิ่งพ้นโทษจำคุกคดียาเสพติด ไม่มีอาชีพทำ ซ้ำติดยา ต้องตระเวนก่อเหตุหาเงินซื้อยามาเสพ พบเคยก่อเหตุร้านขายยา กวาดพระเครื่อง 14 องค์

 

วันที่ 7 ก.ค.65 พ.ต.อ.ภูวไนย เสนาวุธ ผู้กับการ (สอบสวน) กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 รักษาราชการแทน ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี สั่งการให้ พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร รองผู้กำกับการสืบสวน สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ภราดร สุวรรณรัตน์ และพ.ต.ต.ปกป้อง อุไรพันธุ์ สารวัตรสืบสวน สน.ลุมพินี นำกำลังจับกุม นายประเวศ นุสิทธิ์ อายุ 50 ปี ผู้ต้องหา

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 65 เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. มีคนร้ายบุกเข้าไปขโมยของในร้านนวดแผนไทยแห่งหนึ่ง บนถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ซึ่งได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดประมาณ 25,000 บาท ลำโพงบลูทูธ สีดำจำนวน 1 เครื่อง ไอแพด 2 สีเงิน จำนวน 1 เครื่อง ก่อนหลบหนีไป

จากนั้นทางตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ พบคนร้ายเป็นชายสวมผ้าคลุมหัวโม่ง สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น นุ่งกางเกงขาสั้น ใส่รองเท้าแตะ ย่องเข้าไปในที่เกิดเหตุ ก่อนลงมือขโมยทรัพย์สินก่อนหลบหนี ต่อมาทางตำรวจได้ตรวจสอบภาพวงจรปิด จนทราบว่าคนร้ายรายนี้หลบหนีไปกบดาน ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ถนนสุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ จึงนำกำลังไปจับกุมไว้ได้

ตรวจสอบพบของกลางเป็นไอแพด 2 เครื่อง พร้อมเคสสีแดงจำนวน 1 เครื่อง ลำโพงบลูทูธ ยี่ห้อ Marshall สีดำ จำนวน 1 เครื่อง พระเครื่องจำนวน 14 รายการ เสื้อยืดคอกลมสีเทามีลายรูปรถสีแดง จำนวน 1 ตัว กางเกงขาสั้นลายพราง จำนวน 1 ตัว กระเป๋าสะพายข้างสีเขียวคาดดำ จำนวน 1 ใบ และรองเท้าแตะพื้นสีดำ จำนวน 1 คู่

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า เคยต้องโทษในคดียาเสพติดมาก่อน โดยถูกโทษจำคุก 13 ปี หลังพ้นโทษมา ไม่มีงานทำ จึงได้ก่อเหตุตระเวนลักลอบเข้าไปลักทรัพย์ตามร้านค้า และบ้านเรือนในเวลากลางคืน โดยนำทรัพย์สินที่ได้มาขาย และนำเงินไปใช้ซื้อยาเสพติดมาเสพ

นอกจากนี้เจ้าตัวยังรับอีกว่า เคยก่อเหตุงัดร้านขายยา บริเวณซอยสุขุมวิท 10-12 เมื่อกลางดึกของวันที่ 6 มิ.ย. โดยได้ทรัพย์สินเป็นพระเครื่องจำนวน 14 รายการ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำไปประกอบการดำเนินคดีเพิ่มเติมในส่วนนี้ และนำทรัพย์สินส่งคืนผู้เสียหาย

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์สิน” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน. ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป