"ทักษิณ" ฉะ "รัฐบาลไทย" แก้ตัวแทนเมียนมา ปมเครื่องบินล้ำน่านฟ้า แนะถอนตัวเจ้าภาพเอเปก หวั่นภาวะแทรกซ้อน เย้ยแข่งพีอาร์กับ "ชัชชาติ" ยังไงก็ไม่ขึ้น แนะเลิกทำงานหนัก ให้ทำงานแบบฉลาดแทน

 

สืบเนื่องจากวานนี้ (5 ก.ค.65) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมสนทนาในรายการ "CARE Talk" ในหัวข้อ “ผู้นำต้องทำงาน ไม่ใช่ผลาญภาษี”

โดยนายทักษิณ กล่าวถึงกรณีเครื่องบินเมียนมาบินรุกล้ำน่านฟ้าไทยว่า ยังไม่ทันจะเห็นคำขอโทษจากเมียนมา ฝ่ายไทยก็แก้ตัวให้หมด หากมองในมุมหนึ่ง การที่เขาใช้ระเบิดถล่มกลุ่มชาติพันธุ์ มันผิดหลักมนุษยธรรม ต้องขึ้นศาลโลก จริง ๆ แล้วเราไม่ควรไปปกป้องเมียนมา นอกจากนี้ยังมีกระสุนลูกหลงมาบ้านเราด้วย

ในมุมที่สอง เป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ เป็นเรื่องมารยาทที่หลักการระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศต้องเรียกทูตมาประท้วงว่าทำไม่ถูกต้อง จนกว่ารัฐบาลเขาจะขอโทษอย่างเป็นทางการ แม้จะเป็นเพื่อนกันเหมือนที่ตนเองเคยแก้ไขกรณีเผาสถานทูตไทยในกัมพูชา

ทั้งนี้ นายทักษิณยังกล่าวถึงกรณีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศขอโทษแทนเมียนมาว่า ต้องยอมรับว่านายดอนคงหมดไฟแล้ว เพราะขนาดไปประชุมระดับโลกยังใช้ที่ปรึกษาไปแทน เมื่อการต่างประเทศของไทยเป็นแบบนี้ ทำให้ตนเองนึกไม่ออกเลยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะอยู่เป็นเจ้าภาพเอเปกไปเพื่ออะไรหรือแค่อยากจะแข่งกับตนเอง

พร้อมกันนี้ นายทักษิณยังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีชอบบ่นว่าทำงานหนัก แต่ไม่เคยแสดงออกว่าทำงานฉลาด มันต้องทำงานแบบมียุทธศาสตร์ มีการมอบหมายงาน และมีการตอบกลับว่าแก้ไขอย่างไร ต้องมีการบ้านกลับมาคิด ไม่ใช่วัน ๆ เอาแต่ตรวจแฟ้ม

โดยนายทักษิณยังระบุอีกว่า พลเอกประยุทธ์ต้องเปลี่ยนทัศนคติ เพราะไม่ได้มีอำนาจเหนืออธิปไตย ท่านมีสภาฯ ต้องตอบสนองประชาชน ถ้าทำไม่ได้ ไม่ต้องทุ่มงบพีอาร์แข่งกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้เสียเวลา เพราะต่อให้มีกรมประชาสัมพันธ์ก็ยังโฆษณาไม่ขึ้น เพราะสินค้าจะโฆษณาขึ้น มันอยู่ที่ผลิตภัณฑ์ หากคนลองใช้แล้วดีหรือไม่ดีก็จะบอกปากต่อปาก

ดังนั้น ต้องเปลี่ยนทัศนคติใหม่ ต้องทำงานด้วยหัวใจ ต้องรักประชาชน ต้องใช้ภาษีให้คุ้มค่า ไม่ใช่อยากทำอย่างนี้ อยากซื้ออันนี้ แบบนี้เขาเรียกว่า ล้างผลาญภาษี