ดร.อนันต์เผยเด็กเล็กติดโอมิครอนได้เยอะกว่าสายพันธุ์ก่อน แนะต้องเร่งฉีดวัคซีนด่วน! พร้อมเผยข้อมูลการกลายพันธุ์ ก่อกำเนิดพันธุ์ X

 

วันที่ 24 เมษายน 2565 ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่สวนตัว Anan Jongkaewwattana  เกี่ยวกับ ไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่าเด็กเล็กติดโอมิครอนได้เยอะกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้มาก ทำให้ความจำเป็นที่ต้องป้องกันเด็กน้อยด้วยวัคซีนกลายเป็นเรื่องเร่งด่วน ในขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองรู้สึกอย่างนึง ผู้เชี่ยวชาญผู้มีอำนาจในการตัดสินใจยังมองหาข้อมูลที่ชัดขึ้นว่าควรหรือไม่ควรดี

เด็กน้อยอาจจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่จะเห็นโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น และถ้าปล่อยให้ไวรัสปรับตัวติดเด็กง่ายขึ้น ๆ ในอนาคตเราอาจจะไม่เห็นโควิด-19 ที่ไม่ทำให้เด็กป่วยเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป เป็นหลักการอยู่รอดของไวรัส ประชากรกลุ่มไหนเป็นที่ที่ไวรัสเพิ่มจำนวนได้ดี มักจะกลายเป็นเป้าหมายเสมอ

นอกจากนี้ ดร.อนันต์ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ย่อยระบุว่า หลังจากโอมิครอนเข้ามาแพร่กระจายในประชากรมนุษย์ พบว่า มีการแตกเป็นสายพันธุ์ย่อยคือ BA.1, BA.2, BA.3, BA.4 และBA.5 ซึ่งมีการกระจายในหลายประเทศ ปรากกฏการณ์หนึ่งคือ เมื่อไวรัสที่เป็นสายพันธุ์ย่อยเหล่านี้ไปแพร่กระจายอยู่ในที่เดียวกัน จะมีผู้ป่วยที่ได้รับไวรัสต่างสายพันธุ์ไปพร้อม ๆ กัน เกิดการสร้างไวรัสลูกผสมออกมา เรียกชื่อที่แตกต่างกันไปโดยมี X เป็นตัวระบุว่าสายพันธุ์ดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ลูกผสม อาจจะเป็นลูกผสมระหว่างเดลต้ากับโอมิครอน หรือ โอมิครอนสายพันธุ์ย่อยด้วยกันเอง หรืออาจจะเป็นการผสมระหว่าง X- ด้วยกันเอง 

ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา X- สามารถตรวจพบได้เพิ่มขึ้น จนปัจจุบันไปถึง XT แล้ว กระจายอยู่ในหลายประเทศ อีกไม่นานคงมี U, V, X, Y, Z แน่นอน หลังจากนั้นคงต้องดูต่อว่าจะเรียกชื่อไวรัสว่าอะไร หน้าที่ของนักวิจัยทั่วโลกคือต้องทำการศึกษาว่าการเปลี่ยนแปลงในแต่ละสายพันธุ์ใหม่ๆนี้จะสร้างปัญหาอะไรน่ากังวลอีกหรือไม่ ถ้ามีจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ดูเหมือนตรงไปตรงมา แต่ไม่ง่ายครับเพราะมาเป็นหน้ากระดานแบบนี้ เยอะไป ไวไป ทำกันไม่ทัน"