ตำรวจสืบสวนนครบาล 3 ไปจับกุม ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ก่อเหตุยิงปืนในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย อีกคนได้แล้ว สอบสวนเจ้าตัวอ้างว่า เหตุที่ใช้ปืนยิง เพราะต้องการบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสถาบัน เลียนแบบการจุดประทัดเมื่อปีที่แล้ว

 

นายอภินัทธ์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 ข้อหา ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฐานพกพาฯ , ครอบครองฯ และใช้อาวุธปืนยิงโดยไม่มีเหตุอันควร ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุยิงในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถูกตำรวจสืบสวนนครบาล 3 ไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนนำตัวกลับมาสอบสวนที่กรุงเทพฯ

นายอภินัทธ์ ยอมรับว่า วันเกิดเหตุ ได้เข้าร่วมทำกิจกรรมบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสถาบันตอนประมาณ 07.15 น. จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 3 นัด โดยอ้่างว่าเนื่องจากปีที่แล้วมีการจุดประทัดเพื่อบวงสรวง ปีนี้จึงใช้ปืนมาเพื่อใช้ยิงบวงสรวงบ้าง เมื่อยิงเสร็จแล้วได้กลับไปพักผ่อนตามปกติที่หอพัก ในซอยประชาชื่น 19 แขวงและเขตบางซื่อ จนได้เห็นข่าวในทีวี ทำให้กลัวว่าจะมีความผิด จึงนำปืนที่ก่อเหตุไปโยนทิ้งใต้สะพานพุทธ จากนั้นก็กลับมานอนพักที่หอ 1 คืน ก่อนเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่อมาทราบจากญาติว่า ตำรวจพยายามกดดันให้เข้ามอบตัว สุดท้ายจึงตัดสินใจเข้ามอบตัวกับตำรวจ เบื้องต้นหลังการสอบสวนตำรวจสืบสวนนครบาล 3 จะส่งตัวให้ สน.ปทุมวัน รับตัวไปดำเนินคดีต่อไป

ขณะที่พันตำรวจเอกพันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีนี้ว่า พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุใช้ปืนยิงในคลิปทั้งหมด ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 7 คน ที่ผ่านมาได้ออกหมายจับไปแล้ว 2 คน และมีส่วนหนึ่งที่ติดต่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเอง ที่ผ่านมาตำรวจสอบปากคำพยานไปแล้ว 7 ปาก มีทั้งนักศึกษา อดีตนักศึกษา และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยผู้ที่เข้าร่วมในกิจกรรมแต่ไม่ให้ความร่วมมือ ตำรวจจะพิจารณาดำเนินคดีฐานมีส่วนร่วมในการกระทำผิด แต่หากให้ความร่วมมือในการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด ก็จะกันตัวไว้เป็นพยาน

จากข้อมูลการสอบสวนพบว่าในวันเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าไม่ต่ำกว่า 10 นัด โดยบางคนยิงมากกว่า 1 นัด อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมีทั้งปืนพกสั้น และปืนลูกโม่ ของกลางหลังจากที่ใช้ยิงยังไม่ตัดความเป็นไปได้ทั้งที่อาจยังซ่อนอยู่ในมหาวิทยาลัย นำไปโยนทิ้ง หรือนำไปเก็บไว้ที่พักของผู้ร่วมทำกิจกรรม ทั้งนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลให้ได้ทั้งหมด หลังจากนั้นจะเชิญอาจารย์ของมหาวิทยาลัย มาให้ปากคำเพื่อพิจารณาว่าบุคคลใดที่พิสูจน์ตัวได้ เป็นศิษย์ปัจจุบัน หรืออดีตนักศึกษา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป