'ชัชชาติ' ขอรัฐบาลจัดเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เดือน พ.ค. ตามไทม์ไลน์ ยืนยันลงในนามอิสระ ไม่ขัด หาก 'เพื่อไทย' ประกาศหนุน-ขอให้มองนโยบาย ไม่ใช่ตัวบุคคล เมิน พปชร. ส่งชิงหรือไม่ ย้ำไม่ว่าใครจะลงปัญหา กทม. ยังเหมือนเดิม

 

วันที่ 2 ก.พ. 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์​ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงแนวโน้มการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่กระทรวงมหาดไทยรายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยคาดว่าจะสามารถจัดเลือกตั้งได้ในเดือน พ.ค.นี้ ว่าถือเป็นเรื่องดี เพราะเป็นประโยชน์กับประชาชนในการเลือกผู้แทนเข้าไปทำงาน เพราะช่วงนี้มีหลายเรื่องที่ต้องแก้ไข และบางเรื่องเป็นภาระผูกพันในระยะยาว เช่น โครงการรถไฟฟ้า การที่ไม่มีผู้แทนประชาชนเข้าไปติดสินใจนั้นจะหาคนรับผิดชอบยาก พร้อมขอบคุณรัฐบาลที่ยืนยันที่จะให้จัดเลือกตั้งในเดือน พ.ค.และขอให้ทำตามที่บอกไว้

ส่วนทีมงานชัชชาติที่เปิดตัวก่อนว่าที่ผู้สมัครคนอื่น ๆ จะได้เปรียบในการทำงานและหาเสียงหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า การเปิดตัวก่อนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย อาจได้เห็นปัญหาก่อนใคร ขณะเดียวกันอาจทำให้ทีมงานเกิดความเหนื่อยล้า แต่เชื่อว่าเรื่องเวลาไม่มีผลมากนัก เพราะท้ายที่สุดจะไปวัดกันที่ 4 เดือนสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ซึ่งคิดว่าทุกคนมีสิทธิใกล้เคียงกัน อยู่ที่ว่าใครจะได้กระแสจากประชาชนมากกว่ากัน

ทั้งนี้ หากมีพรรคการเมือง เช่น พรรคเพื่อไทยที่พร้อมประกาศสนับสนุนจะทำให้ได้เปรียบกว่าผู้สมัครคนอื่นหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวยืนยันว่า ส่วนตัวจะลงสมัครในนามอิสระ แต่หากจะมีพรรคการเมืองใดสนับสนุนก็ไม่ปฏิเสธ แต่อยากให้สนับสนุนที่นโยบาย และแนวทางการทำงาน เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้ในอนาคต ไม่ใช่สนับสนุนแค่ตัวบุคคลเพียงอย่างเดียว

นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 9 หลักสี่-จตุจักร มีสัญญาณให้ทีมชัชชาติต้องปรับตัวหรือไม่นั้น มองว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ไม่ได้วัดการเมืองใหญ่ได้มากนัก เพราะเป็นเพียงรายเขต และรายบุคคล แต่สิ่งที่กังวลคือมีคนออกมาใช้สิทธิน้อย ดังนั้นต้องรณรงค์ให้ทุกคนออกมาใช้สิทธิให้มากกว่านี้ เพราะทุกคะแนนมีความหมาย สะท้อนให้เห็นว่าทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไร ซึ่งมีผลกับการเปลี่ยนแปลงประเทศ

นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐอาจไม่ส่งผู้สมัครลงชิงผู้ว่า กทม. โดยยืนยันว่า ไม่ได้แข่งกับใคร แต่แข่งกับตัวเอง และพยายามทำนโยบายของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะส่งใครหรือไม่ส่งใครปัญหากรุงเทพมหานครยังคงเหมือนเดิม ซึ่งทีมงานยังต้องลงพื้นที่รับฟังปัญหาให้ได้มากที่สุด เพื่อมาจัดทำนโยบายให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง