โค้งสุดท้าย! เมื่อวานนี้หาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จตุจักร-หลักสี่ ทุกพรรคทุ่มสุดตัว ไม่เอา ประยุทธ์ หรือ หนุนบิ๊กตู่

 

โค้งสุดท้าย! หาเสียงใหญ่เมื่อ 28 ม.ค. คึกคัก ทุกพรรคการเมืองที่ลงชิงชัยงัดไม้เด็ดขึ้นมาโชว์ หวังดึงคะเเนนเสียง สำหรับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขตจตุจักร-หลักสี่ ซึ่งจะเปิดหีบในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.)

ขุนพลระดับ 'บิ๊กป้อม' พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่ด้วยตนเอง เพื่อช่วยนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ หรือมาดามหลี ผู้ลงสมัครของ พปชร.

มุ่งเน้นนโยบายช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งบิ๊กป้อม ร่ายยาวเป็นผลงานรัฐบาลทำมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นดูแลเรื่องที่ดิน ความเป็นอยู่ เเละประชาชนต้องมีรายได้ อยู่ดีกินดี

ยืนยันเสียงหนักเเน่นว่าจะดูแลไปจนเสียชีวิตเพื่อให้อยู่ดีเป็นสุข

พล.อ.ประวิตร ย้ำอีกว่า พปชร. จะยังคงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกับขอให้ผู้สูงอายุกลับไปชวนลูกหลานให้เลือก พปชร.ด้วย แต่จะสามารถรักษาเก้าอี้ ส.ส.กทม.เขต 9 เอาไว้ได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประชาชน

ประกาศตัวชัดเเจ้ง 'หนุน' บิ๊กตู่ เป็นนายกฯ ก่อนอ้อนเสียงชนะขึ้นอยู่กับคนในพื้นที่ 

ฟากมาดามหลี ยังไม่รู้จักเหน็ดรู้จักเหนื่อย ควงคู่ชีวิต 'สิระ' ลงพื้นที่บริเวณตลาดริมบึง ทักทาย และขอคะแนนเสียงจากพ่อค้าแม่ค้า โดยได้รับการตอบรับจากคนในพื้นที่เป็นอย่างดี มีคนมามอบดอกไม้และขอถ่ายรูปด้วยเป็นจำนวนมาก

ทั้งมาดามหลีเเละสิระ มั่นใจความเป็นคนในพื้นที่ จะได้รับชัยชนะในครั้งนี้ ยิ่งสิระด้วยเเล้ว คุยโวว่า จะได้คะเเนนเสียงไม่ต่ำกว่า 35,000 คะเเนน

 

@พรรคเล็กหนุน 'บิ๊กตู่' ตบเท้าชูนโยบายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์

ส่วน 'พรรคกล้า' ภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคอย่าง 'กรณ์ จาติกวณิช' อดีตลูกหม้อ ปชป. ที่วันนี้เเยกมาตั้งพรรคเอง ปราศรัยว่า หากประชาชนต้องการเลือกตั้งซ่อมแล้วอยากได้ ส.ส.เป็นฝ่ายค้าน ให้ไปเลือกพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคกล้าไม่มีเจตนาเลือกตั้งแล้วเข้าไปเป็นฝ่ายค้าน แต่พร้อมสนับสนุนทุกเรื่องที่นายกฯ รัฐบาล รัฐสภานำเสนอแล้วเป็นประโยชน์ต่อประชาชน

ชัดเจนในอุดมการณ์ ต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้น ฉะนั้นหนีไม่พ้นหนุน 'บิ๊กตู่' 

อีกพรรคที่หนุนนายกฯ คนปัจจุบัน คือ พรรคไทยภักดี 'นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม' หัวหน้าพรรค ปลุกระดมฮึกเหิม 

มี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา และนายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมด้วย

นพ.วรงค์ ปราศรัยว่า เป็นโค้งสุดท้ายชี้เป็นชี้ตายอนาคตของประเทศ นี่คือการต่อสู้ของประชาชนกับกลุ่มการเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้คือการเลือกตั้งซ่อม ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในการกำหนดนโยบาย แต่พรรคการเมืองบางพรรคหาเสียงแบบบิดเบือนด้วยการกำหนดนโยบายเข้าข่ายโกหกหลอกลวงประชาชน

ถามชาวหลักสี่ "จะเลือก ส.ส.ไปเป็นฝ่ายค้าน หรือจะเลือก ส.ส.เข้ามาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ขอย้ำว่าพรรคไทยภักดี เป็นพันธมิตรกับนายกฯ ตรงไปตรงมา" และยังกล่าวอีกว่า "รอบนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ขอคะแนนจากแฟนคลับพรรคประชาธิปัตย์ให้เลือกพรรคไทยภักดีด้วย"

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 9 พรรคประชาธิปัตย์ นำป้ายมาติดคล้ายป้ายหาเสียง ในทำนองให้เลือกคนดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้นำป้ายดังกล่าวออก

 

@'ก้าวไกล-เพื่อไทย' ชัดเจน ใครไม่เอา 'บิ๊กตู่' ให้เลือกเรา

อีกสองพรรคฝ่ายค้านที่ขึ้นเวทีปราศรัยดุเดือด เรียกเสียงปรบมือ ชื่นชมไม่หวาดไม่ไหว

นั่นคือ พรรคก้าวไกล ปราศรัยเดือดขอคะแนนเสียงประชาชนสนับสนุน 'เพชร' กรุณพล เทียนสุวรรณ เป็น ส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคฯ ขึ้นเวทีช่วยปราศรัยหาเสียง เช่นเดียวกันกับแกนนำพรรครายอื่น ๆ ขึ้นเวทีปราศรัย เน้นย้ำนโยบายไม่เอาบิ๊กตู่เป็นนายกฯ

เเล้วยังลั่นดัง ๆ ว่าไม่เอานายกฯ คนนอก และวันนี้ไม่ใช่แค่โค้งสุดท้ายของเลือกตั้งซ่อม แต่จะเป็นโค้งสุดท้ายของรัฐบาล คสช. ในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าด้วย

ด้านนายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร พรรคเพื่อไทย ตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ ที่สวนสาธารณะ เคหะทุ่งสองห้อง โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมขึ้นเวทีปราศรัย ระบุว่า ครั้งนี้เราต้องช่วยกันเลือกนายสุรชาติให้ชนะขาด ไม่เช่นนั้นจะขาดโอกาสในการแก้ตัวจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ขอให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิกันให้มาก มาช่วยกันเป็นหูเป็นตาไม่ให้เกิดการโกง และฝากถึงประชาชนให้บอกต่อกันว่า "รับเงินมา แต่จะกาเพื่อไทย"

สุดท้ายการเลือกตั้ง ส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร แม้จะเป็นเพียงตัวเลข ส.ส. 1 ที่นั่ง แต่ทุกพรรคต่างทุ่มกำลังสุดตัวเพื่อที่จะคว้าเก้าอี้นี้ไว้ เพราะนี่อาจเป็นตัวชี้วัดถึงกระแสของประชาชนในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า ว่าสุดท้ายแล้วพรรคใด จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน

พรุ่งนี้ (30 ม.ค. 2565) จะได้รู้กัน