ปิดฉากการแข่งขัน กีฬาอาวุโส “ไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์” ครั้งที่ 2 นักเบ่งกล้ามระดับนายพลคว้าสุดยอดแชมป์เพาะกาย พร้อมรับรางวัลนักกีฬาชายดีเด่น


การแข่งขันกีฬาอาวุโส “ไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์” ครั้งที่ 2 ที่สงขลาเป็นเจ้าภาพ ในวันสุดท้ายวันนี้ ประเภทกีฬาเพาะกาย ชิง 9 เหรียญทอง โดยเพาะกายชาย อายุ 50-59 ปี เหลือนักกีฬาแข่งขัน 4 คน เนื่องจาก ชาญยุทธ์ ทิมทอง อายุ 57 ปี นักกึฬาทีมชาติชุดชิงแชมป์เอเชีย ที่อินโดนีเซีย เมื่อปี 2019 ต้องถอนตัวออกจากการแข่งขัน เนื่องจากหลังรอบคัดเลือกเสร็จ ได้ลงมาดื่มเอ็ม 150 แล้วเกิดน็อกจนต้องส่งเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทำให้ต้องถอนตัวจากรอบชิงชนะเลิศ ทั้งที่ในปีที่ผ่านมา ชาญยุทธ์ ทำผลงานไว้ไม่เบา จากการลงแข่งในปี 2563 ได้แชมป์อีสานคลาสสิคที่ขอนแก่น ได้รองแชมป์ไทยแลนด์อีลิท ปี 2020 ที่สมุย และได้ที่ 3 มิสเตอร์ไทยแลนด์ ปี 2564 เป็นรายการล่าสุด เมื่อเดือน เม.ย. กระทั่งมาทุ่มเทแข่งขันรายการนี้ ทั้งนี้ชาญยุทธ์อยู่ในวงการเพาะกายมา 30 กว่าปี

สำหรับผลการแข่งขัน เพาะกายชาย อายุ 50-59 ปี ที่ 1 ได้แก่ พลตรีสุดชาย พลอยประดับ, ที่ 2 ประธาน คงแนวดี อดีตทีมชาติ, ที่ 3 สิโรจน์ เกิดผล

พลตรีสุดชาย พลอยประดับ เปิดใจว่า "ผมรับราชการเป็นทหารที่กระทรวงกลาโหม ผมใช้เวลาว่าง ๆ จากการทำงานมาฝึกซ้อมเพาะกาย โดยไม่หวังติดทีมชาติ เพราะต้องการให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงมากกว่า รายการนี้ เป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรก ผมเริ่มเล่นกีฬาเพาะกายมาตั้งแต่ปี 2557 จากการจัดกิจกรรมของกองทัพบก และเริ่มลงสนามแข่งขันปี 2558 สำหรับการมาแข่งขันได้เจอพี่ ๆ น้อง ๆ ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน

ผมใช้เวลารอคอยการคว้าแชมป์มาเป็นเวลา 8 ปี ถึงประสบความสำเร็จ สามารถคว้าแชมป์รายการแรกได้สำเร็จ จากที่เดิมในช่วงปีหลัง ๆ มานี้ จะติด 1 ใน 5 เข้ารอบชิงชนะเลิศมาตลอด”

ส่วนผลการแข่งขัน เพาะกาย ชายอายุ 40-49 ปี ที่ 1 ได้แก่ ไพรัช พะเนาว์ศรี, ที่ 2 เอกพล สุขทอง แชมป์โลกแอธเลติกฟิสิคปี 2019, ที่ 3 ก้องทิตย์ วรเจริญธนกุล

เพาะกาย ชายอายุต่ำกว่า 30 ปี ที่ 1 ได้แก่ อดิศักดิ์ ศรีธงชัย, ที่ 2 วุฒิชัย คงเหลือ, ที่ 3 สิปปกร สารอักษร

เพาะกาย ชายอายุ 30-39 ปี ที่ ได้แก่ 1 อุรุพงษ์ วงศ์อารีราษฎร์, ที่ 2 ธนวุฒิ ชัยชนะ, ที่ 3 กรษณ วังศานุตร

เพาะกาย ชาย อายุ 60 ปี ขึ้นไป ที่ 1 ได้แก่ สมัย โคตพันธุ, ที่ 2 ชินวัตร จันทร์ประทัศน์, ที่ 3 สุวิทย์ เกตุแก้ว

สปอร์ตฟิสิคชาย อายุต่ำกว่า 30 ปี ที่ ได้แก่ 1 ศรัณย์ฤทธิ์ แกล้วกล้า  ที่ 2 ธนวุฒิ ชัยชนะ  ที่ 3 ชัยวุฒิ สืบศักดิ์

สปอร์ตฟิสิคชาย อายุ 30-39 ปี ที่ 1 ได้แก่ รัฐศาสตร์ รุ่งศิริทรัพย์, ที่ 2 อุรุพงษ์ วงศ์อารีราษฎร์, ที่ 3 เกษฎา มาชา   
     
สปอร์ตฟิสิคชาย อายุ 40-49 ปี ที่ 1 ได้แก่ สุนิติ เกิดสงกรานต์, ที่ 2 สุวัฒน์ จันทร, ที่ 3 ไพรัช พะเนาว์ศรี
    
สปอร์ตฟิสิคชายอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่ 1 ได้แก่ ภูริทัติ ฤทธิศร, ที่ 2 ธีระ เอกบวรวงศ์  ที่ 3 ประวิตร โพธิ์ทอง
     
นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส นายกสมาคมกรีฑาผู้สูงอายุไทย เปิดเผยว่า หลังจากการแข่งขันกีฬาอาวุโส “ไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์” ครั้งที่ 2 ปิดฉากในวันสุดท้าย ในส่วนของกรีฑาพอใจภาพรวมของการแข่งขัน ที่แข่งขันทั้ง 3 วัน ทีมกรีฑาสงขลา เจ้าภาพ คว้าเจ้าเหรียญทอง โดยคว้าไปทั้งหมด 53 ทอง 54 เงิน 43 ทองแดง ตามมาด้วย นครศรีธรรมราช 34 ทอง 24 เงิน 43 ทองแดง อันดับ 3 กทม.20 ทอง 13 เงิน 5 ทองแดง ซึ่งต้องขอชื่นชมเจ้าภาพสงขลาที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

"ปีนี้เป็นปีที่ 2 สำหรับการแข่งขันกีฬาอาวุโส “ไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์” ซึ่งปีแรกเราจัดที่ กทม.มาปีที่ 2 มาจัดที่ภาคใต้ ที่สงขลา แม้จะจัดแข่งในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน แต่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี”