ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงหนักกว่าต่างประเทศจนต้องใช้"เซอร์กิตเบรกเกอร์"และหลังเปิดเทรดยังร่วงลงต่อเนื่อง ดัชนีฯต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี เหตุวิตกไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักหลังไทยพบผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้นหวั่นเข้าสู่ระยะ 3

ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,114.91 จุด ลดลง 134.98 จุด (-10.80%) มูลค่าการซื้อขาย 101,652.04 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยในการเทรดภาคบ่ายลงไปถึง 10% จนต้องใช้"เซอร์กิตเบรกเกอร์"พักการซื้อขาย 30 นาที หลังเปิดเทรดใหม่อีกครั้งดัชนีฯก็ยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยทำระดับสูงสุด 1,187.39 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,095.37 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 394 หลักทรัพย์ ลดลง 1,333 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 179 หลักทรัพย์

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรงกว่าคาดมาก และลงหนักสุดเมื่อเทียบกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียต่างติดลบราว 3-9% ขณะที่ตลาดในยุโรปติดลบเฉลี่ย 6% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สติดลบ 5% โดยดัชนีฯยังคงปรับตัวลงต่อเนื่องหลังจากหยุดการซื้อขายเป็นการชั่วคราว (เซอร์กิตเบรกเกอร์) เมื่อตลาดหุ้นร่วงลง 10% เป็นเวลา 30 นาทีแล้ว

ทั้งนี้ ตลาดบ้านเรามีความวิตกกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้น ทำให้มีโอกาสที่ไทยจะเข้าสู่ระยะ 3 ได้ ซึ่งหากรุนแรงก็จะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักไป โดยผู้ติดเชื้อกลุ่มล่าสุดได้ออกไปยังสถานที่ท่องเที่ยวด้วยทำให้มีโอกาสที่จะมีพบผู้ติดเชื้อรายอื่น ๆ ตามมาอีกเหมือนกับในต่างประเทศที่จำนวนผู้ติดเชื้อก็พุ่งขึ้นไปมากเช่นกัน โดยโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะเข้าสู่ระยะ 3 เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น อีกทั้งหากจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งเร็วก็วิตกว่าอัตราการตายจะมากขึ้นด้วย เพราะยังไม่มีความพร้อมเพียงพอจะรับมือ

"ดัชนี SET Index วันนี้ลงมาถึงต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี นับจากจุดต่ำสุดเดิมที่ 1,099 จุด เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2555"นายวีระวัฒน์ กล่าว

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสปรับตัวลงไปได้อีก แต่ระหว่างทางอาจรีบาวด์ได้บ้างแต่ก็ยังอยู่ในทิศทางขาลง พร้อมมองจุดต่ำสุดรอบนี้อยู่ที่ 950 จุด ส่วนการปรับขึ้นอาจยังจำกัดมาก แต่ก็ให้ไว้ที่ 1,150 จุด