หลังจากกรมการขนส่งทางบก เตรียมเสนอปรับเพิ่มโทษไม่พกใบขับขี่ และ ใบขับขี่หมดอายุ โทษปรับตั้งแต่ 1 หมื่น - 5 หมื่นบาท จนมีกระแสคัดค้านจำนวนมาก ล่าสุด ตำรวจ ออกมาชี้แจงปรับแก้กฎหมายใหม่ เพื่อลดอุบัติเหตุ ระบุโทษปรับ 1 หมื่น ถึง 5 หมื่นบาท เป็นโทษปรับสูงสุดเท่านั้น

จากกรณีกรมการขนส่งทางบก เสนอยกร่างกฎหมายใหม่เกี่ยวกับเรื่องใบขับขี่ เตรียมเพิ่มอัตราโทษ กรณีขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ มีโทษปรับสูงสุด 1 หมื่นบาท จากเดิมปรับสูงสุด 1 พันบาท แต่หากใบขับขี่หมดอายุ โทษจำคุกสูงสุด 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 5 หมื่นบาท จากเดิมปรับสูงสุด 1,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 เดือน เพื่อให้สอดคล้องพฤติกรรมคนไทยมากขึ้นและลดอุบัติเหตุ

ภายหลังข่าวดังกล่าว ถูกนำเสนอออกไป พบว่าโลกออนไลนมีการเคลื่อนไหวต่อต้านคัดค้าน พ.ร.บ.จราจรใหม่ เพราะเห็นว่า เป็นการเปิดช่องให้กรรโชกทรัพย์ เชื่อว่า เป็นการรีดไถประชาชน พร้อมกับเห็นว่า กฎหมายแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้อุบัติเหตุลดลง

โดย พลตำรวจตรีเอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่า อัตราโทษดังกล่าวนั้น เป็นอัตราโทษปรับสูงสุด แต่จะถูกปรับมากหรือน้อยเท่าไร ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน

ส่วน ผู้ที่ไม่พกใบขับขี่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่งกฎหมายดังกล่าว ยังไม่มีผลบังคับใช้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

ส่วนการปรับแก้กฎหมาย สาเหตุเกิดจากปัจจุบันประเทศไทยครองอันดับ 1 ประเทศที่เกิดอุบัติเหตุสูงที่สุดในโลก การแก้กฎหมายครั้งนี้ จึงต้องการลดปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ การปรับแก้กฎหมายจะละเอียดมากขึ้น

นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการพิจารณายกเลิกส่วนแบ่งค่าปรับให้ตำรวจจราจร เพื่อป้องกันคำครหาของประชาชนในการกวดขันวินัยการขับขี่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

ตำรวจแจงกฎหมายใหม่ปรับ 1 หมื่นไม่พกใบขับขี่ เป็นอัตราโทษสูงสุด