แพทย์ เตือนพบโรค "มือ เท้า ปาก" สายพันธุ์รุนแรง ระบาดเพิ่ม 5 เท่า จากปีที่ผ่านมา ระบุ เด็กเล็กมีความเสี่ยงมากสุดหากเข้าสมองกล้ามเนื้อหัวใจ "ตาย" ล่าสุดตายแล้วอย่างน้อย 3 คน ห่วงอีก 2 สัปดาห์เปิดเทอม หวั่นเด็กติดเชื้อ แนะหมั่นล้างมือ ห้ามใช้ช้อนป้อนอาหารเด็กร่วมกัน หากป่วย 3 คนขึ้นไปต้องปิดชั้นเรียน

นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า โรคมือ เท้า ปาก ในประเทศไทย ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสคอกซากีเอ 6 เอ 16 ซึ่งไม่ค่อยรุนแรง เด็กจะมีอาการไข้สูง เป็นตุ่มน้ำใส ที่ฝ่ามือฝ่าเท้า

แต่อย่างไรก็ตามยังมีเชื้อเอ็นเทอร์โรไวรัส 71 หรือ อีวี 71 ซึ่งเป็นเชื้อรุนแรงที่ทำให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อสมอง โดยเฉพาะตรงแกนสมอง และ กล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้เสียชีวิตได้

ในปีที่ผ่านมาพบการระบาดที่เกิดจากเชื้ออีวี 71 เพียงร้อยละ 10 แต่ล่าสุดตั้งแต่ต้นปี 2560 จนถึงขณะนี้ ตรวจพบว่าในจำนวนเด็กที่ป่วยมือเท้า ปาก เกิดจากเชื้ออีวี 71 ถึงร้อยละ 50 หรือ เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 เท่า การระบาดพบมากที่ภาคเหนือตอนล่าง อีสาน และกรุงเทพฯ และเสียชีวิตอย่างน้อยแล้ว 3 คน

ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลเป็นอย่างมาก เพราะอีก 2 สัปดาห์ ก็จะมีการเปิดเทอมแล้วและ ยังไม่หมดช่วงฤดูฝน เพราะเชื้อโรคจะเจริญเติบโตได้ดีช่วงหน้าฝน มีความคงทนสูงในสิ่งแวดล้อม และ โรคนี้สามารถติดต่อได้ง่ายทางสารคัดหลั่งน้ำลาย อุจจาระ และ การสัมผัสของผู้ที่มีเชื้อ

เมื่อเด็กได้รับเชื้อ จะมีระยะฟักตัวของเชื้อโรค ประมาณ 3-5 วัน อาการเริ่มต้นมีไข้ เพียงวันเดียวเท่านั้น ก็จะเริ่มมีตุ่มมีแผลในปาก ที่บริเวณเพดานอ่อน ลิ้นไก่ รอบทอนซิล กระพุ้งแก้ม ส่วนที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เป็นตุ่มน้ำ ใส ๆ เล็ก ๆ ในรายที่เป็นมากอาจจะขึ้นที่หัวเข่า ข้อศอก รอบก้น บางรายเล็บจะหยุดการเจริญเติบโต