ประชาชนจากทั่วทุกภูมิภาค เดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอย่างต่อเนื่องด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
บรรยากาศตลอดทั้งวันวานนี้ ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง ประชาชนจากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรไทยตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติ
โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และจิตอาสาคอยแนะนำในการปฎิบัติตัวและอำนวยความสะดวก เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานอาหารแก่ประชาชน ซึ่งเป็นฝีมือของนักเรียนโรงเรียนช่างฝีมือในวังหญิง
มีเมนู ได้แก่ มะระยัดไส้ คั่วกลิ้งกระดูกหมูอ่อน น้ำพริกปลาร้า ผัดมักกะโรนี และ ข้าวเหนียวดำเปียกเผือก ส่วนของว่าง คือ "บุหลันดั้นหมอก" ซึ่งเป็นหนึ่งในตำรับขนมหวานวังหลวง
ขณะที่ สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2560 ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 45,180 คน รวม 298 วัน มีจำนวน 9,832,985 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 5,265,851 บาท 25 สตางค์ รวม 298 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 736,847,957 บาท 1 สตางค์
จ.นราธิวาสตั้งเป้าปลูกดอกดาวเรือง99,999ต้นทั่วจังหวัด
ส่วนบรรยากาศการเตรียมความพร้อมการปลูกดอกดาวเรืองตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ดอกสีเหลืองบานสะพรั่งพร้อมกันทั่วทั้งประเทศในช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชระหว่างวันที่ 25–29 ตุลาคม 2560 นั้น
โดยที่ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองนราธิวาสได้เร่งมือเพาะปลูกต้นดาวเรืองตามสถานที่ราชการและประดับตกแต่งตามสถานที่ต่างๆทั่วเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส
ขณะที่นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เดินทางเข้าให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ที่ทำการเพาะปลูกต้นดาวเรือง พร้อมร่วมรดน้ำต้นดาวเรืองที่กำลังเพาะในโรงเพาะพันธ์ดาวเรืองของเทศบาลเมืองนราธิวาสด้วย
สำหรับพื้นที่นราธิวาสนั้น ตั้งเป้าจะปลูกต้นดอกดาวเรืองให้ได้ 99,999ต้น ในพื้นที่13อำเภอ เพื่อให้ทุกพื้นที่ของจังหวัดมีดอกสีเหลืองบานสะพรั่งในช่วงที่มีงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
รัฐบาลขอความร่วมมือทีวีปรับโทนภาพออกกาศตั้งแต่ 1ต.ค.
ด้าน นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงที่มีงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ได้มีการขอความร่วมมือสถานีโทรทัศน์ทุกช่องปรับโทนภาพและเนื้อหาของรายการโทรทัศน์ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งโทรทัศน์ทุกช่อง และ สื่อทุกแขนงต่างพร้อมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. -20 ต.ค. สถานีโทรทัศน์ต้องปรับโทนสีและภาพที่ใช้ในการออกอากาศ ส่วนวันที่ 21-24 ต.ค.จะมีรายการพิเศษเพื่อเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 และวันที่ 26-29 ต.ค. จะเป็นส่วนของงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยขอให้รอการประกาศรายละเอียดอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง