กอร.รส.เตรียมปรับแผนการทำงานให้มีความเหมาะสม ในพิธีบวงสรวง และยกเสาเอกพระเมรุมาศ วันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ขณะที่ประชาชน ยังคงเดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่อง

บรรยากาศบริเวณท้องสนามหลวง ตลอดทั้งวันวานนี้ (24 ก.พ.) มีประชาชนจากทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ต่างพร้อมใจกันเดินทางมาเข้าแถวรอกราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง กันอย่างต่อเนื่อง

โดยวานนี้ (24 ก.พ.) มีตัวแทนประชาชนจาก 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพัทลุง  จันทบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งสิ้น 964 คน ที่กระทรวงมหาดไทยอำนวยความสะดวก ในการเดินทางมาเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ

ขณะที่ จุดคัดกรองทั้ง 6 จุด ในพื้นที่ ยังคงมีการจัดเจ้าหน้าที่คอยประจำจุด เพื่อคัดกรองและดูแลความปลอดภัยประชาชนที่เข้าพื้นที่ ส่วนด้านหน้าประตูเทวาภิรมย์มีเจ้าหน้าพร้อมจิตอาสาคอยบริการแจกน้ำดื่มและอาหารว่างแก่ประชาชนด้วย

สำหรับ ประชาชนที่เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพเสร็จแล้ว และอยากชมนิทรรศการ 'เย็นศิระ เพราะพระบริบาล' จะมีรถบริการรับจากประตูเทวาภิรมย์มาส่งที่บริเวณเต็นท์พักคอยใกล้กับอาคารนิทรรศการฯ เพื่ออำนวยความสะดวกไม่ต้องเดินเท้าไกล

ขณะที่ สำนักพระราชวัง ได้สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 30760 คน รวม 113 วัน มี 4700049 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงินยอดเงิน 2685498.25 บาท รวม 113 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 396199710.09 บาท

ด้าน พลตรีพงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวภายหลัง การประชุม กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) ว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมาทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือในการดูแลประชาชนที่เดินมากราบถวายบังคมพระบรมศพ ทั้งการดูแล จุดคัดกรอง การเข้าคิว การแจกจ่ายอาหาร การดูแลทางการแพทย์ และการอำนวยความสะดวกให้แก่พระภิกษุ สามเณรอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้จะมีการปรับแผนการทำงานให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในท้องสนามหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 10.01 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีบวงสรวงและยกเสาเอกพระเมรุมาศ ณ ท้องสนามหลวง

ซึ่ง กอร.รส. จะเตรียมความพร้อมเพื่อดูแลความปลอดภัยและจัดทำแผนเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ทั้งหมดต่อไป

ส่วนกำหนดการจริงพิธีบวงสรวง และ ยกเสาเอกพระเมรุมาศ ตามกำหนดเวลาฤกษ์ คือ วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 4 ระหว่างเวลา 10.01 น. จนถึงเวลา 10.54 น. อันเป็นมหัทธโนฤกษ์ หมายถึง ฤกษ์ใหญ่ ใช้ประกอบการมงคลทุกอย่าง เป็นปฐมฤกษ์ เช่น สร้างบ้านใหม่ ประกอบธุรกิจ มีความเจริญรุ่งเรือง เงินทองและฐานะสมบัติมั่งคั่ง

โดยในพิธีฯ ได้เชิญคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประกอบด้วยคณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ  คณะกรรมการฝ่ายจัดขบวนพระบรมราชอิสริยยศ  คณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศฯ  คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์  คณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจร  และ คณะกรรมการฝ่ายจัดทำหนังสือที่ระลึกและจดหมายเหตุงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  รวมถึงคณะรัฐมนตรี(ครม.) ผู้บัญชาการทั้ง 4 เหล่าทัพ และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้าร่วมในพิธีด้วย