จากกรณีเพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม กทม. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้รับการประสานจาก ทวิตเตอร์ หรือ X "โหลกแดง" Red Skull เพื่อให้ช่วยเหลือเคส "หนุ่มนักศึกษา ม.ดัง ถูก หนุ่ม CEO เจ้าของคลีนิกชื่อดังเมายา ทำร้ายร่างกาย หลังเล่นแอปฯ หาคู่ก่อนนัดเจอกัน แจ้งความคดีไม่คืบ มีผู้เสียหายโผล่เพียบ นั้น




ล่าสุด (24 พ.ค. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ไปพบกับนายอาร์ม (นามสมมติ) อายุ 23 ปี อีกหนึ่งผู้เสียหายที่ถูกทางผู้ก่อเหตุ นัดผ่านแอปฯ และถูกทำร้าย โดยนายอาร์มได้เล่าให้กับทีมข่าวช่อง 8 ฟังว่า เหตุการณ์ของตนและผู้ก่อเหตุ เกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือน มิ.ย. กลางปีที่แล้ว ตนกับผู้ก่อเหตุได้มีการนัดพบกันผ่านทางแอปฯ หาคู่แอปฯ หนึ่ง ก็นัดมีความสัมพันธ์ตามปกติไม่มีปัญหาอะไร จึงนัดพบเพื่อมีความสัมพันธ์กันหลายครั้ง จนกระทั่งครั้งสุดท้ายที่ตนนัดพบกับผู้ก่อเหตุ


เหตุการณ์ก็ละไม้คล้ายคลึงกับทางผู้เสียหายที่มาร้องเพจสายไหมต้องรอดในวันนี้ ก็คือทางผู้ก่อเหตุนั้นมีการโยนคีย์การ์ดลงมาจากคอนโดที่ชั้น 4 ตึก B ในเมื่อตนได้คีย์การ์ดตนก็สแกนแล้วขึ้นลิฟต์ไปหาที่ห้องของทางผู้ก่อเหตุ ซึ่งก็เป็นไปตามปกติเมื่อเจอหน้ากันก็ทักทายกัน แต่ครั้งนี้ทางผู้ก่อเหตุมีการชักชวนให้ตนนั้นเสพยาเสพติด ซึ่งทางตรงที่เป็นวัยรุ่นอยู่ ก็อยากรู้อยากลองจึงลองเสพทั้งแบบสูดดม และฉีดเข้าเส้นเลือด และหลังจากที่มีการเสพยากันไปเป็นที่เรียบร้อย




ทางผู้ก่อเหตุก็ได้เริ่มชวนตนปฏิบัติภารกิจเหมือนที่เคยทำ แต่ครั้งนี้ทางผู้ก่อเหตุบอกว่าผนังคอนโดของตนบางมากจะทำอะไรก็เบา ๆ หน่อยอย่าส่งเสียงดังให้มากนัก เดี๋ยวมันจะมีปัญหากับห้องอื่น ๆ ซึ่งตนก็เข้าใจและปฏิบัติตามเป็นอย่างดีและก็เริ่มปฏิบัติภารกิจกัน โดยเริ่มแรกตนนั้นได้มีการจับอวัยวะเพศของทางผู้ก่อเหตุ โดยในระหว่างที่จับนั้นทางผู้ก่อเหตุได้มีข้อแม้ให้ตนว่าในการจับนั้น ขอให้ทำมือตรง ๆ อย่าทำแบบอุ้งมือหรืองอนมือคล้ายกับคนกำลังตั้งท่ารำ


แต่จะข้อแม้ของทางผู้ก่อเหตุตนทำตามไม่ได้ ทำให้ทางผู้ก่อเหตุเริ่มไม่พอใจและเริ่มตบที่หน้าตนอย่างแรง แล้วก็ชวนคุยใหม่ แต่จากฤทธิ์ยานั้นตนก็รู้สึกไม่รู้ว่าทางผู้ก่อเหตุกระทำอะไรไปบ้างรู้แต่เพียงว่าตบหน้า แต่หลังจากที่ลองทำตามข้อแม้ของทางผู้ก่อเหตุใหม่ก็ยังทำไม่ได้ ทำให้ทางผู้ก่อเหตุเริ่มมีการต่อยและเตะเข้าที่ใบหน้าของตนอย่างจัง จนเลือดกบปาก ทำให้ตนเริ่มรู้สึกกลัวแล้ว


และจากนั้นทางผู้ก่อเหตุก็ได้มีการพูดอ้างว่าตนมีปืนอยากลองโดนยิงตรงแขนหรือตรงขา หรือจะเอาที่หัวบ้างไหมเดี๋ยวจะยิงให้เพื่อลิ้มรสความเจ็บปวด ซึ่งพอตนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกตกใจเข้าไปใหญ่ แต่ทางผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้มีการชักปืนมาโชว์หรือพยายามจะเอาปืนมายิงตนแต่อย่างใด ซึ่งในวันนั้นตนอยู่กับทางผู้ก่อเหตุรวมแล้วกว่า 22 ชั่วโมง โดยทิศทางผู้ก่อเหตุไม่ได้หลับนอนเลยและมีการข่มขู่ตบหน้าต่อยตีตนซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนั้น และตนก็ได้แอบฟังทางผู้ก่อเหตุคุยโทรศัพท์กับผู้อื่น โดยได้ยินมาว่า หากเป็นคนที่เป็นผู้ใหญ่หรือโตกว่าอีคนนี้ คงไม่ยอมให้ตนตบตีทำร้ายร่างกายถึงเพียงนี้ แต่อีนี่มันอืดจริง ๆ และหน้าด้านอยู่อยู่ได้




จนในที่สุดตอนโทร. หาแม่ของตนบอกว่าให้มารับหน่อยที่หอเพื่อนเพราะตกบันไดหัวแตก แต่ทางแม่ของตนถามกลับมาว่าถ้าหัวแตกแล้วทำไมไม่ให้เพื่อนพาไปหาหมอไปหาหมอก่อนจะโทร. มาบอกทำไม และด้วยความกลัวที่จะต้องอยู่กับทางผู้ก่อเหตุไปอีก ตนจึงบอกแม่ไปว่าเกิดอะไรขึ้นตามตรง ทำให้แม่ของตนเข้าใจและยอมมารับตนยังคอนโดของผู้ก่อเหตุทันที


จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางผู้ก่อเหตุได้มีการเรียก ค่าเสียหายกับทางตนด้วย โดยอ้างอ้างว่าในวันที่พบกันทางตนทำเลือดเลอะที่นอนของทางผู้ก่อเหตุไปหมด จึงต้องซื้อผ้าปูที่นอนใหม่ทั้งหมด เป็นจำนวนเงินกว่า 11,000 บาทอีกด้วย ซึ่งทางตนก็ต้องขอเงินพ่อแม่มาจ่ายเพราะยังเป็นแค่นักศึกษา คงไม่มีเงินจำนวนนี้มาให้ทางผู้ก่อเหตุ อีกทั้งตนได้ไปลงบันทึกประจำวันว่าตนเองถูกทำร้ายร่างกายไปด้วย แต่ก็เป็นการลงบันทึกประจำวันแค่นั้นยังไม่ได้แจ้งความแต่อย่างใด


สุดท้ายตนก็อยากให้ผู้เสียหายรายอื่นออกมาแฉพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุรายนี้เพื่อจะได้ไม่ให้ผู้ก่อเหตุคนนี้ไปทำแบบนี้กับใครอีก ส่วนผู้เสียหาย ที่ไปร้องกับทางสายไหมต้องรอดในวันนี้ ตนก็ตกใจเหมือนกันเพราะมารู้ที่หลังว่าเป็นคนรู้จักและสนิทกัน ไม่คิดเลยว่าต้องมาเผชิญชะตากรรมแบบเดียวกันด้วย




ต่อมา ทางนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน เผยกับสื่อมวลชนว่า กรณีดังกล่าวขณะนี้มีผู้เสียหายกว่า 6-7 รายแล้ว ที่ต้องการร้องเรียนและเอาผิดผู้ก่อเหตุคนดังกล่าว ถ้ามีผู้เสียหายเพิ่มเติมสามารถแจ้งเรื่องมาที่สายไหนต้องรอดได้ ส่วนเรื่องแจ้งความไปแล้วคดีไม่คืบ ตนก็จะติดต่อไปยังสน.หัวหมาก เพื่อให้เร่งรัดติดตามคดีดังกล่าว และถ้า มีการเรียกตัวมาสอบสวนหากพบว่าป่วยจิตจริงก็ต้องพาไปพบแพทย์ เพื่อหาหนทางรักษาต่อไป


อย่างไรก็ตาม เพจ อีซ้อขยี้ข่าว3 ออกมาให้ข้อมูลว่า CEO เถื่อนหลอกชายหนุ่มจากแอปฯ หาคู่ ไปนัดเจอที่คอนโด สุดท้ายมีรสนิยมซาดิสม์ จับคู่นอนกระทืบจนเลือดกลบปาก มีผู้เสียหายหลายราย ด้านคลินิก ยืนยันหนุ่มคนนี้คือ CEO ปลอม

 

เหยื่อโผล่นับสิบ! CEO เก๊ เซ็กส์วิตถาร แค่ทำไม่ถูกใจกระทืบคู่ขาปางตาย