จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า “#รีวิวโดนเทงานแต่ง จากทีมจัดสถานที่มีชื่อเจ้าหนึ่งของจังหวัด

 

เป็นประสบการณ์ที่แย่มาก ก่อนวันงานมีการนัดดูสถานที่จริงล่วงหน้าเป็นเดือน ยังขอให้ทางเราปรับแพ็กเกจจากเดิมราคา 24,900 บ. เป็น 31,400 บ. เพื่อให้งานดูอลังขึ้น และยังให้เราเตรียมเต็นท์กับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เพื่อรองรับแบ็กดรอปที่จะมาลง

 

พอถึงวันงานจริง ไม่มาจ้า ติดต่อไม่ได้ ไม่มีแจ้งล่วงหน้า ทิ้งให้บ่าวสาวเคว้งคว้างกันเลยทีเดียว พิธีรดน้ำสังข์ช่วงเช้าต้องยกเลิก ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตั้งใจมาร่วมพิธีต้องรอเก้อ ทิ้งให้ทางบ้านเจ้าสาวต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเอาเอง

 

เราตั้งใจจัดงานนี้มาก เตรียมงานล่วงหน้าเกือบปี มาพังเพราะทีมงานที่ไม่มีความรับผิดชอบอย่างพวกคุณ ไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดกับตัวเอง

 

สุดท้าย ต้องขอขอบคุณญาติพี่น้อง เพื่อน ๆ ทีมงานตากล้อง และทีมจัดสถานที่ชุดใหม่ทุก ๆ ท่าน ที่ช่วยกันจัดงานช่วงเย็นให้ผ่านไปได้ด้วยดี ขอบคุณทุกคนจากใจจริง ๆ ครับ”

 

หลายคนได้เข้าไปคอมเมนต์ทีมจัดสถานที่ พร้อมทั้งแนะนำให้เจ้าของโพสต์แจ้งความเพื่อดำเนินคดี

 

ผู้โพสต์ได้ลงโพสต์ไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคู่รักคนอื่น ๆ ให้ระมัดระวังในการเลือกออแกไนซ์จัดงาน ส่วนผู้จัดรายนี้ได้โอนเงินมัดจำคืนแล้ว แต่งานของตนเองเสียไปแล้ว เป็นเรื่องของความรู้สึกที่ตนเองตั้งใจจะจัดงานแต่งงานที่ประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิต แต่กลายเป็นว่าต้องมาเจอผู้จัดฯ แบบนี้

 

ขณะเดียวกันยังมีเจ้าบ่าวเจ้าสาวผู้เสียหายอีกหนึ่งคู่ที่ได้รับความเสียหายจากออแกไนซ์รายนี้ โดยงานของตนเอง มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา และได้ใช้บริการออแกไนซ์รายนี้เช่นเดียวกัน โดยตนเองก็เป็นเพื่อนกับคุณเมย์เจ้าสาวเคสแรกด้วยที่แนะนำต่อๆกันมา

 

ส่วนของตนเองนั้นออแกไนซ์ดังกล่าวไม่ได้เทงานแต่งของตนเองแต่งานที่ออแกไนซ์ได้จัดขึ้นให้ ทั้งไม่ตรงปก และไม่ตรงต่อเวลา เนื่องจากก่อนจะถึงวันงานทางร้านได้รับปากกับตนเองว่าจะจัดแบล็กดรอปถ่ายภาพงานแต่งสวยงานจัดเต็ม ข้าวของทำพิธีต่างๆ จะทำให้เสร็จทั้งหมดภายในวันที่ 16 17 พฤษภาคม

 

แต่พอถึงวันงานทางร้านได้นำแบล็กดรอปมาตั้งในงานช้ามากเพิ่งมาตั้งในวันที่ 18 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันงานแล้ว และในเวลาบ่าย 2 โมง แขกจำนวนมากได้เดินทางมาที่งานกันเยอะมากแล้ว แต่ทางร้านยังทาสีแบล็กดรอปถ่ายภาพยังไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ งานก็ไม่เรียบร้อย

 

โดยคุณเจษได้ส่งคลิปวิดีโอในวันงานให้กับทีมข่าวซึ่งจะเห็นคนงานยังช่วยกันทาสีขณะฝนตกอยู่เลยทั้งที่แขกในงานมากันเยอะแล้ว

 

รวมถึงแพคเกจต่างๆที่ทางร้านอ้างว่า จะมีให้ในวันงานทั้งซุ้มแบล็กดรอปจะมีหญ้าเทียมให้ยืนถ่ายรูป รูปเจ้าบ่าวเจ้าสาวติดหลังแบล็กดรอป เก้าอี้ในพิธีรดน้ำสังข์ที่ดูดี แต่กลับมีแค่เก้าอี้พลาสติกธรรมดาๆ ซึ่งตอนนั้นตนเองโมโหมาก เพราะ งานแต่งครั้งเดียวในชีวิตในชีวิตแต่กลับได้งานแบบนี้ โดยระหว่างวันงานตนเองพยายามติดต่อเจ้าของออแกไนซ์แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ โทรศัพท์ไปไม่รับสาย ตนเองต้องให้ลูกน้องของทางร้านออแกไนซ์โทรศัพท์ให้เพื่อขอคุย ซึ่งทางร้านรับผิดชอบให้ตนเองแค่ไม่คิดเงินค่าจัดงานทั้งหมด รวมเป็นเงินหมื่นกว่าบาท แต่ต้องเสียค่าแรงจัดงานทั้งหมดให้กับคนงานจำนวน 8,000 บาท ซึ่งตนเองมองว่า ไม่ยุติธรรมและควรออกมารับผิดชอบมากกว่านี้

 

ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของออแกไนซ์ดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ตรัง เมื่อไปถึงพบว่าบ้านของออแกไนซ์ดังกล่าวยังมีคนงานประมาณ 3-4 คนกำลังช่วยกันทำงานอยู่ภายในโรงไม้เพื่อเตรียมทำซุ้มถ่ายรูปงานแต่งงานอื่นๆอยู่ รวมถึงภายในบ้านมีดอกไม้จำนวนมากจัดเตรียมเพื่อนำไปประกอบงานแต่งอยู่เกือบเต็มพื้นที่ของบ้าน

 

ต่อมาได้พูดคุยกับนายพล (นามสมมติ) เจ้าของออแกไนซ์ดังกล่าว ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนเองยอมรับว่าทางร้านได้เทงานแต่งของลูกค้าจำนวน 2 รายด้วยกัน โดยรายแรกคือลูกค้าที่ตกเป็นข่าว และอีกคู่ที่ยังไม่เป็นข่าว ส่วนเหตุผลที่ไม่สามารถเดินทางไปจัดงานได้ทั้งที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้ซื้อ package งานแต่งไว้หมดแล้ว เจ้าตัวร้องไห้กับทีมข่าวพร้อมกับอ้างว่า ของทุกอย่างได้เตรียมไว้เกือบหมดแล้ว ทั้งแบล็กดรอปถ่ายภาพ โต๊ะพิธีรดน้ำสังข์ รวมถึง ซุ้มงานแต่งต่างๆ แต่ในเคสที่เป็นข่าว วันงานดันเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เนื่องจากว่า คนงานของร้านส่วนใหญ่ที่เป็นคนทำซุ้มถ่ายภาพงานแต่งได้แอบไปรับงานซ้อนกับออแกไนซ์ร้านอื่นซึ่งจัดงานแต่งอีกที่ ทำให้คนงานของทางร้านได้หายไปจำนวนหนึ่ง และส่งผลทำให้งานที่ตนเองได้ตกลงกับลูกค้าไว้ไม่มีคนงานไปจัดซุ้มงานแต่งทั้งหมดได้ทันจึงไม่สามารถไปได้ ซึ่งตนเองยอมรับผิดที่หลังเกิดเรื่องได้ปิดเครื่องหนี ไม่รับโทรศัพท์ เพราะตอนนั้นไม่รู้จะทำอย่างไร ตนเองควบคุมสถานการณ์ไม่ได้

 

แต่หลังจากนั้นหลังจบวันงาน ตนเองได้โอนเงินชดใช้ค่าเสียหายให้กับลูกค้าไปแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่มีโอกาสเดินทางไปขอโทษ หรือ พูดคุยกับลูกค้า เนื่องจาก ตนเองยังเครียดอยู่และขอเวลาเคลียร์งานแต่งลูกค้าคนอื่นๆให้เสร็จก่อน โดยหลังจากวันที่ 26 พ.ค. นี้ ตนเองจะเดินทางไปขอขมาเจ้าสาวและเจ้าบ่าวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

พร้อมกับยืนยันกับทีมข่าวว่าร้านของตนเองไม่ใช่ร้านมิจฉาชีพที่ตั้งใจโกหกหลอกลวงลูกค้า แต่เกิดจากปัญหาที่คนงานไม่พอจริงๆ โดยร้านของตนเองเพิ่งก่อตั้งได้ประมาณหนึ่งปีเศษ มีลูกค้าเยอะมาก ซึ่งอาจทำให้งานหลุดมือ คนงานมีไม่เพียงพอจึงจำเป็นต้องเทงานลูกค้าถึง 2 ราย แต่ที่ผ่านมายืนยันว่า ร้านตนเองไม่เคยโกงหรือเทงานใคร และหลังจากนี้ตนเองจะนำปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก ตอนนี้ยอมรับว่าเครียดมาก และตนเองรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ในเคสของคุณเมย์

 

ส่วนผู้เสียหายอีกคน คือ คุณเจษฎา เจ้าบ่าวงานแต่งอีกเคส ที่โพสต์ข้อความว่างานแต่งของเจ้าตัวก็ไม่ตรงปกเช่นเดียวกัน ทางร้านทาสีแบล็กดรอปในวันงานขณะที่แขกมากันแล้ว งานก็ไม่เรียบร้อย ไม่ตรงปก ตนเองยืนยันว่า งานเสร็จทันเวลา แต่เป็นงานไฟไหม้ เกือบจะไม่ทันเท่านั้น แต่สุดท้ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ยังมีซุ้มให้ได้ถ่ายรูป มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งทำพิธีรดน้ำสังข์ และก่อนแขกจะมาฝนตกทำให้เกิดเรื่องขึ้น ซึ่งทางร้านได้ชดใช้ด้วยการไม่คิดเงินค่างานทั้งหมดให้แล้ว แต่ค่าแรงคนงาน 8,000 บาท ก็ต้องคิด ซึ่งจริงๆควรเก็บมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ซึ่งตนเองก็ขอโทษเช่นกันที่งานไม่สวยสมบูรณ์ซึ่งจะนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น

บ่าวสาวน้ำตาตก ออแกไนซ์เทงานแต่ง