เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ.อรุณ มูสิกิ้ม รอง.สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุชาติ ชิตพิทักษ์ รอง.สวป.สภ.บ่อผุด ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังตำรวจ ได้ร่วมกันจับกุม นายมันดีฟ อายุ 38 ปี สัญชาติอินเดีย ขณะอยู่หน้าร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง หมู่ 6 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยของกลาง ภาพเทพเจ้าศาสนาซิกข์ กระดาษฉีกให้ลูกค้าจดเขียนชื่อ และเขียนสะเดาะเคราะห์ โทรศัพท์ 1 เครื่อง มีข้อความลูกค้าโอนเงินชำระค่าดูดวง จึงได้ควบคุมตัวไปทำการสอบสวน ที่ สภ.บ่อผุด ในเบื้องต้น นายมันดีฟ หมอดู ยอมรับสารภาพ ว่าได้ออกทำการดูดวงให้กับคนทั่วไปในแหล่งท่องเที่ยวจริง โดยได้เดินทางมาพร้อม กับเพื่อนชายชาวอินเดีย หลังเกิดเหตุ เพื่อนชายไหวตัวหลบหนีไปได้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา แก่นายมันดีฟ หมอดูลวงโลก ในข้อหา “ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”

 

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีหญิงสาวชาวไทย ซึ่งเป็นพนักงานร้านขายโทรศัพท์ในห้างแห่งหนึ่งใน อำเภอเกาะสมุย เป็นผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ ว่ามีคนต่างชาติน่าจะเป็นคนต่างชาติสัญชาติอินเดีย ได้เข้ามาตีสนิทแล้วฉวยโอกาสพูด ทำนายทายทักกับตนว่าน่าจะมีเคราะห์ร้าย ดูหน้าตาเศร้าหมอง แล้วเริ่มชักชวนให้ดูดวงทำนาย และ แก้กรรม โดยวิธีการให้หญิงสาวหรือเหยื่อเขียนข้อความที่มีปัญหา ในชีวิตที่ตนเองประสบอยู่หรือเหตุความไม่สบายใจลงในแผ่นกระดาษที่หมอดูอินเดียคนดังกล่าวเตรียมไว้ ซึ่งเมื่อหญิงสาวหรือเหยื่อเขียนข้อความต่างๆ พร้อมให้เหยื่อทำอธิษฐานถึงเทพเจ้า ที่หมอดูอินเดียนำเอามาแสดงให้เห็นขนาดเท่าแผ่นภาพโปสต์การ์ด ซึ่งหมอดูอินเดีย อ้างถึงว่าสามารถดลบันดาลช่วยให้คลายเคราะห์ร้ายได้ แล้วให้หญิงสาวร้านโทรศัพท์มอบแผ่นกระดาษที่เขียนปัญหาชีวิตและความไม่สบายใจต่างๆไว้ให้กับหมอดูอินเดียเพื่อทำพิธีสื่อไปให้เทพเจ้า “ในขณะนั้นหมอดูคนดังกล่าวได้เล่นมายากล หลอกเปลี่ยนชุดกระดาษว่างเปล่า ที่เตรียมเอาไว้ส่งคืนให้แก่หญิงสาวหรือเหยื่อเพื่อแสดง ให้เห็นว่าเทพเจ้าได้รับรู้ปัญหาหรือเคราะห์ร้ายแล้ว และในระหว่างนั้นได้เดินแอบไปอ่านข้อความที่หญิงสาวหรือเหยื่อเขียนไว้ในกระดาษอีกชุด แล้วเอามาทำนายให้หญิงสาวหรือเหยื่อที่ถูกหลอก ว่าเทพเจ้าได้รับทราบปัญหาหรือเคราะห์ร้ายต่างๆ แล้ว” และให้หญิงสาวหรือเหยื่อเปิดดูกระดาษ ปรากฏว่ากระดาษที่อยู่กับหญิงสาวหรือเหยื่อเปิดดูเป็นแผ่นกระดาษเปล่าๆ และต่อมาหมอดูอินเดียได้ทำนายตรงกับข้อความที่หญิงสาวหรือเหยื่อเขียนไว้ทุกอย่าง จึงทำให้หญิงสาวหลงเชื่อโดยสนิทใจว่าหมอดูคนอินเดียคนนี้ทำนายแม่นมากน่าเชื่อถือ

 

ต่อมาเมื่อเหยื่อเริ่มหลงเชื่อจึงได้เริ่มโน้มน้าวให้เหยื่อทำบุญ โดยออกอุบายว่าปัญหาหรือเคราะห์แต่ละเรื่องต้องแก้เป็นเรื่องๆ ไปโดยการทำบุญให้กับเทพเจ้าที่ช่วยแก้กรรมหรือเคราะห์ร้ายให้ ตามจำนวนที่หมอดูอินเดียคนดังกล่าวกำหนด ซึ่งหญิงสาวหรือเหยื่อรายดังกล่าวได้สูญเงินไปจากการดูดวงและสะเดาะเคราะห์ทำบุญจำนวน 25,400 บาท เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบข้อมูลและเมื่อได้รับแจ้งจึงได้ออกติดตามจนกระทั่งพบหมอดูอินเดียชื่อนายมันดีฟ อายุ 38 ปี สัญชาติอินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มดังกล่าว ซึ่งกำลังชักชวนให้หญิงสาวชาวไทยอีกรายที่เป็นพนักงานร้านเสริมสวยมาดูดวง ซึ่งก็จะใช้วิธีการหลอกลวงโดยการทายทักว่ามีกรรมมีเคราะห์เหมือนกับเหยื่อรายอื่นๆ แต่ในระหว่างนั้นหญิงสาวพนักงานร้านเสริมสวยไหวตัวทันได้กระซิบให้เพื่อนโทรไปแจ้งตำรวจ เมื่อขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวพบว่านายมันดีฟ ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นนักท่องเที่ยว และเมื่อขอตรวจสอบเอกสารการประกอบอาชีพ หรือการทำงานของคนต่างด้าวปรากฏว่า นายมันดีฟ ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ทางเจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบเอกสารต่างๆ พบรูปภาพโปสต์การ์ดเทพเจ้าทางศาสนา สมุดฉีกที่ใช้สำหรับเขียนข้อความดูดวงและเอกสารที่เป็นรายชื่อของลูกค้าดูดวงพร้อมเบอร์โทรจำนวนหลายรายทั้งในพื้นที่ เกาะสมุย และ ภูเก็ต กระบี่ ซึ่งอาจจะเป็นลูกค้าที่ถูกหลอกให้ดูดวงสะเดาะเคราะห์ แล้วต้องเสียเงินไปจำนวนมาก แต่ไม่กล้าออกมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่

 

เมื่อจับกุมนายมันดีฟ ซิงค์ ได้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ติดต่อกับเพื่อนหมอดูอินเดียที่หลอกหญิงสาวร้านขายโทรศัพท์รายแรก และกดดันให้นำเงินมาคืนแก่หญิงสาวรายแรก จนกระทั่งหมอดูอินเดียคนแรกได้โอนเงินมาคืนหญิงสาวร้านขายโทรศัพท์จนครบจำนวน 25,400 บาท ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามหมอดูอินเดียกลุ่มนี้มาดำเนินคดี เพื่อไม่ให้ไปหลอกลวงดูดวงให้กับคนไทยรายอื่นๆอีก

 

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยที่ทางเพจของ สภ.บ่อผุด พ.ต.อ.เด่นดวง ทองศรีสุข ผกก.ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ตรวจสอบ พร้อมโพสต์เตือน ขอฝากเตือนภัยไปยังหญิงสาว ที่ชอบดูดวงหรือมีคนหน้าตาเหมือนคนต่างชาติมาทำนายทายทัก แล้วเสนอดูดวงให้ อย่าได้หลงเชื่อท่านอาจจะเสียเงินไปให้กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวไปฟรีๆ มิจฉาชีพในคราบ “หมอดูดวง” แต่งกายลักษณะคล้ายชาวอินเดีย พูดและสื่อสารภาษาไทยได้อย่างเข้าใจ มีพฤติการณ์ชักชวนให้ดูดวงโดยอ้างว่าจะมีเคราะห์ หากไม่แก้กรรมโดยการทำบุญจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อได้เสียเงินให้กับชายคนดังกล่าว และได้มาแจ้งความไว้แล้วที่สภ.บ่อผุด พบเห็นการกระทำความผิดหรือบุคคลน่าสงสัยแจ้ง 191 หรือ 061-3064453

 

วันนี้ (10 พ.ค.) ทีมข่าวช่องแปดเดินทางไปเจอกับ เบิ้ม ลูกโป่ง หรือ กฤษกร แซ่เหล้า ฉายานักมายากล ซึ่งทันทีที่เดินทางไปถึง เจ้าตัวได้มีการให้ทีมข่าวเขียนความในใจลงไปในกระดาษ ที่เตรียมเอาไว้ ด้วยดินสอ โดยไม่ต้องบอกว่าต้องการถามความในใจหรือต้องการรู้เรื่องอะไร โดยให้เขียนลงไป 3 ข้อ ซึ่งทีมข่าวได้มีการเขียนทำนองว่า “ จะซื้อรถได้ไหม , เที่ยวทะเล , แมวกัด”

 

โดยหลังจากที่เขียนเสร็จ ทาง เบิ้ม ลูกโป่ง ได้ให้ทีมข่าวเอามือสองข้างวางไว้ที่กระดาษที่เขียนเอาไว้ จากนั้นได้มีการยื่นข้อความภาษาเทพ ซึ่งอ่านไม่ออก โดยเจ้าตัวอ้างว่าเป็นภาษาบูชาสิ่งที่อยากรู้ ให้มีการอ่านและนับว่าในข้อความดังกล่าวมีทั้งหมด กี่วงกลม โดยรอบแรกทีมข่าวอ่านและนับ ปรากฏว่าได้ 12 วง โดยเพิ่มลูกโป่งบอกว่าขอให้นับใหม่อีกครั้งเพราะไม่ครบ ทีมข่าวจึงนับใหม่ปรากฏว่าเป็น 13 วง

 

จากนั้น เบิ้มลูกโป่ง ก็ได้มีการทำนายเกี่ยวกับสิ่งที่ทีมข่าวเขียน ซึ่งตรงทั้งหมด ไม่ว่าจะจะเป็นเรื่องของการซื้อรถ ไปเที่ยวทะเล และระวังสัตว์สี่เท้าคือแมวจะกัด , และเมื่อทีมข่าว มีการพลิกดูกระดาษที่เขียนไว้ในมือปรากฏว่ากลายเป็นกระดาษเปล่า ซึ่งข้อความหายไป โดยเบิ้ม ลูกโป่งบอกว่าข้อความที่เขียนนั้น เทพได้สื่อสารและรับรู้ไปหมดแล้ว

 

เบิ้ม ลูกโป่ง หรือนายกฤษกร เผยว่า ทั้งหมดมันคือมายากล ที่อาศัยเรื่องของการถูกหลอกล่อ โดยให้ไปโฟกัสที่ภาษาเทพแล้วให้มีการนับข้อความ จนทำให้ผู้ที่อยู่ในพิธี อาจมีการละเลยกระดาษที่เขียนเอาไว้ที่วางอยู่บนโต๊ะ มัวแต่ไปนับและอ่าน ข้อความภาษาเทพ จนเป็นเหตุทำให้ถูกสลับกระดาษที่เขียนเอาไว้ ดังนั้นทั้งหมดมันคือมายากล และวิธีการเหล่านี้มักทำให้มีผู้หลงเชื่อและถูกหลอก ฉะนั้นมันคือ”วัคซีนความเชื่อ“

 

แต่ระหว่างที่มีการให้สัมภาษณ์และสาธิตเกี่ยวกับมายากลการสลับ ที่อ้างว่าเทพ มีการรับรู้และการเขียนข้อความของทีมข่าวเสร็จแล้ว ก่อนที่ทีมข่าวกำลังจะเดินทางกลับ

 

ปรากฏว่า เบิ้ม ลูกโป่งลูก ได้มีการเรียกให้ทีมข่าวหยุด และฟัง , ประกอบกับเจ้าตัวได้มีการสาธิต “การสื่อสารเกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างเทพกับคน”

 

ซึ่งทางเบิ้ม ลูกโป่งบอกว่าล่าสุดทางเทพได้รับรู้แล้ว และมีการตอบกลับเป็นข้อความเข้ามาในกระดาษใบเดียวกันกับที่ทีมข่าวเขียนก่อนหน้า

 

โดยให้ทีมข่าวมีการขยำกระดาษเปล่าที่อยู่ในมือ ทำเป็นลักษณะให้เล็กมากที่สุด จากนั้นให้มีการอธิษฐานกับกระดาษที่ขยำ เพื่อขอคำตอบจากเทพ และเมื่อทีมข่าวขยำตามพี่เบิ้มลูกโป่งบอก

 

และมีการคลี่กระดาษออกมา ปรากฏว่ามีข้อความตัวหนังสือสีแดงปรากฏขึ้นมาบนกระดาษ ตามที่ทีมข่าวเขียนเอาไว้ โดยระบุว่า

 

รถจะซื้อได้หรือไม่ เทพตอบกลับมาว่า “ok” เป็นภาษาอังกฤษภาษาอังกฤษ

 

เที่ยวทะเล เทพตอบกลับมาว่า ”yes” หมายถึงใช่

 

แมวกัด เทพตอบกลับมาว่า ”go h.p.” เป็นภาษาอังกฤษและอักษรย่อ หมายถึง ไปโรงพยาบาล

 

และก่อนที่การสาธิตการตอบกลับของเทพจะจบลง เบิ้มลูกโป่งได้หันมาบอกกับทีมข่าวว่า “เทพรับรู้แล้วว่าช่วงนี้ร้อนเงิน และเงินในกระเป๋ากำลังจะถูกนำไปซื้ออะไรบางอย่าง” เบิ้มลูกโป่งจึงได้มีการเปิดกระเป๋าตังค์ เพื่อที่จะพูดคุยสื่อสารกับเทพ , ระหว่างนั้นมีไฟลุกออกมาจากกระเป๋าตังค์ จนทำให้ทีมข่าวและรวมถึงทีมช่างภาพที่อยู่เบื้องหลังตกใจ ก่อนที่การสาธิตจะจบลง

หมอดูแขกลวงโลก! เขียนทุกข์บูชาเทพ ตุ๋นเหยื่อสูญเงินหมื่น