จากเหตุการณ์ที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาบริเวณทางเข้าสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ย่านตลิ่งชัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งในห้อง LINE ของกลุ่มกู้ภัย ผู้หญิงอายุประมาณ 40 ปี ถูกยกลงมาจากรถทัวร์คันหนึ่งและถูกนำลงมาวางไว้อยู่บนฟุตบาททางเข้าสถานีขนส่ง ซึ่งจากการตรวจสอบพบอาการผู้หญิงดังกล่าวอยู่ในอาการหมดสติ ก่อนจะพบว่าไม่มีลมหายใจและได้เสียชีวิตแล้ว

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่อู่รถทัวร์แห่งหนึ่ง ย่านบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน โดยได้ไปพบกับคนขับรถทัวร์คันเกิดเหตุ คือ นายสุรศักดิ์ อายุ 33 ปี พร้อมได้พาทีมข่าวขึ้นไปบนรถทัวร์คันเกิดเหตุ เป็นรถทัวร์สายสตูล - ตรัง - กรุงเทพฯ จากนั้นได้ชี้ตำแหน่งที่นั่งของผู้โดยสารหญิงคนดังกล่าวให้ดู อยู่โซนด้านหลังขวา และเป็นที่นั่งแถวนอกติดกับทางเดิน

นายสุรศักดิ์ เล่าว่า ผู้โดยสารหญิงคนดังกล่าวเดินทางมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราชดับรถทัวร์อีกคัน แต่รถเกิดเสีย จึงได้มีการประสานให้รถคันของตัวเอง เข้ารับผู้โดยสารที่จังหวัดชุมพร ก่อนที่จะเดินทางต่อเข้ากรุงเทพฯ ระหว่างที่ผู้โดยสารหญิงคนนี้ ขึ้นรถมา ก็เห็นว่า มีอาการปกติดีทุกอย่าง ไม่มีท่าทางผิดปกติใดๆ เมื่อรับผู้โดยสารขึ้นรถแล้ว ก็ได้ขับรถมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ไปส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 จากนั้นได้ขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าสถานีขนส่งสายใต้ แต่ระหว่างทางลงทางด่วน ก่อนจะถึงสถานีขนส่ง ได้มีผู้โดยสารมาเคาะเรียก พร้อมแจ้งว่า มีผู้โดยสารหญิงป่วย เกิดอาการหอบ และได้โทรศัพท์แจ้ง 1669 ให้มารับที่สถานีขนส่งแล้ว ตัวเองจึงรีบขับรถไปที่สถานีขนส่งทันที ซึ่งจำได้ว่าระยะทางจากจุดนั้น มาถึงสถานีขนส่งประมาณ 5 กิโลเมตร พอถึงสถานีขนส่ง ก็ได้รีบเลี้ยวรถเข้าไปจอดแอบตรงบริเวณทางเข้า ใกล้กับป้อมรปภ. พร้อมกับบีบแตร กวักมือเรียกให้รปภ. มาช่วยกัน ซึ่งรปภ. 4 - 5 คน พร้อมกับผู้โดยสารบนรถ ก็ได้ช่วยกันพาผู้โดยสารหญิงคนนี้ลงจากรถไปนั่งอยู่ตรงจุดเกิดเหตุ เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น

นายสุรศักดิ์ บอกว่า ตอนลงจากรถ ผู้โดยสารหญิงคนนี้ ยังมีสติและยังรู้ตัว แต่พอลงจากรถไปไม่นานก็หมดสติ รปภ. จึงได้รีบนำแผงพลาสติกมากันบังแดดให้ แล้วก็ได้มีปั๊มหัวใจ ประมาณ 5 นาที ก่อนที่รถกู้ชีพจะมาถึง และได้รีบพาตัวส่งโรงพยาบาลธนบุรี 2

นายสุรศักดิ์ ยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้ทิ้งผู้โดยสารหญิงคนนี้ ตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่ตั้งใจที่จะช่วยเหลือให้เร็วที่สุดจึงตัดสินใจจอดตรงทางเข้าสถานีขนส่ง ไม่เข้าไปที่ชานชาลา เพราะกลัวว่าจะช้าและไม่ทันการ

ทีมข่าวจึงได้โทรศัพท์สอบถาม นายพัชรพล อายุ 37 ปี พนักงานขับรถตู้ในสายใต้ใหม่ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่าเมื่อช่วงประมาณ 06:00 น. ของวันนี้ ระหว่างที่ตนเองแต่งตัวอยู่ภายในรถตู้ เพื่อรอรับผู้โดยสารไปส่งต่างจังหวัดสุพรรณบุรีที่ตนเองปฏิบัติหน้าที่อยู่ ได้เห็นว่ามีคนบนรถทัวร์ที่วิ่งมาจากทางภาคใต้เมื่อเลี้ยวเข้ามาส่งผู้โดยสารบริเวณทางเข้า ยกผู้หญิงคนดังกล่าวลงมาจากรถโดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยช่วยหามลงมาก่อนมาปล่อยไว้ตรงบริเวณฟุตบาท ซึ่ง ตนเองจึงได้เดินเข้าไปดูพบว่าผู้หญิงอยู่ในอาการตัวซีด ตนเองซึ่งทำกู้ภัยอยู่ด้วยจึงได้เดินเข้าไปจับชีพจรพบว่าไม่มีชีพจรเต้นแล้วระหว่างนั้นได้มีการประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมกับรถจากโรงพยาบาล เข้าให้การช่วยเหลือจนกระทั่งใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจชีพจรของผู้หญิงคนดังกล่าวกลับมาและรีบนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลเป็นการด่วนและยังไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

ตนเอง ยืนยันว่าระหว่างที่มีการเอาผู้โดยสารที่ป่วยลงมาจากรถไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ของขนส่งหรือบริษัทรถทัวร์มาแสดงตัว และเข้าช่วยเหลือรับผิดชอบแต่อย่างใดซึ่งทำให้ตนเองรู้สึกว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง