จากกรณีลูกสาวร้องเพจดังใน จ.กำแพงเพชร โดยมีการโพสต์คลิปกล้องวงจรปิดนาทีพ่อทำร้ายแม่ และพ่อป่วยจิตเวชมีอาการคุ้มคลั่งบ่อยครั้ง และครั้งนี้หนักกว่าที่ผ่านมา พ่อทำร้ายแม่จนบาดเจ็บ เเจ้งตำรวจสายตรวจในพื้นที่ไปแล้วกลับถูกปฏิเสธ บอกว่าเป็นเรื่องในครอบครัวต้องแก้ไขกันเอง




เบื้องต้น ลูกสาว เผยกับทีมข่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลา 18.00 น. จากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านได้บันทึกไว้ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากเรื่องของรถจักรยานยนต์ที่เป็นชื่อของตนที่แม่ซื้อให้ แต่พ่อก็คิดว่าเป็นของตนเองไม่ยอมให้ใครจับ ซึ่งระหว่างนั้นแฟนของตนก็กำลังมารับที่หน้าบ้าน ตนก็เดินออกไปรอ ซึ่งพ่อของตนเห็นก็รีบวิ่งออกไปเพื่อจะไปรอทำร้ายแฟนตนเอง และโทษแฟนตนว่าเป็นต้นเหตุให้ครอบครัวเป็นแบบนี้ จากนั้นพ่อก็วิ่งเข้ามาเพื่อจะนำรถจักรยานยนต์ขี่ตามออกไป แต่แม่มาห้ามไว้จนลงมือทำร้ายตามคลิป




ตนได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงหันไปดูก็รีบวิ่งเข้ามาช่วยแม่ตนเอง ส่วนมีดที่ถือไว้นั้นต้องการจะขู่พ่อไม่ให้ทำร้ายแม่ ซึ่งที่ผ่านมาก็จะต้องพกมีดไว้เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน เพราะพ่อขู่ตลอดเวลาว่าจะทำร้ายคนในครอบครัว เพราะพ่ออาการกำเริบคุ้มคลั่งบ่อยครั้ง จึงอยากนำเรื่องนี้ออกมาตีแผ่และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้าไปให้คำแนะนำและช่วยหาทางออกกับครอบครัวตนด้วย นั้น




วันนี้ (9 พ.ค. 2567) จากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเทพนคร และผู้ใหญ่บ้าน ได้ลงพื้นที่พบกับพ่อและแม่ที่อยู่ในคลิป แต่ไม่พบลูกสาว จึงได้สอบถามข้อมูลทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจผิดของลูกสาว เนื่องจากวันเกิดเหตุ พ่อได้พยายามจะเอารถจักรยานยนต์ไปหาลูกเขยซึ่งมีเรื่องหมางใจกัน แต่ระหว่างนั้นแม่ได้เข้ามาห้ามไว้ จึงเกิดการยื้อแย่งกุญแจทำให้แม่ล้มลงและส่งเสียงร้อง ระหว่างนั้นลูกสาวได้ยินเสียงคิดว่าพ่อทำร้ายแม่ จึงนำมีดเข้ามาขู่พ่อไม่ให้ทำร้ายแม่ จากคลิปที่ออกไปจึงเป็นเรื่องเข้าใจผิดของลูกสาว


ทั้งนี้ พ่อและแม่ มีอาการนอนไม่หลับ ต้องกินยานอนหลับเป็นประจำ ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นมุมหลังรถกระบะทำให้มองดูเหมือนเป็นการทำร้าย โดยฝ่ายชายขอชี้แจงว่าไม่ได้ทำร้ายแต่จะออกไปนำรถจักรยานยนต์และขี่ไปเคลียร์กับลูกเขย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าได้รับแจ้งเหตุจริง แต่เป็นเหตุเกี่ยวกับเรื่องของการไม่กินยา จึงอยากให้คุยกันในบ้านไม่คิดว่าจะมีเหตุทำร้ายกัน เพราะไม่ได้เห็นคลิปวงจรปิด




ล่าสุด นายทม อายุ 63 ปี พ่อที่ลูกสาวอ้างว่าคลั่งทำร้ายแม่ เล่าว่า เหตุการณ์จากในคลิปวงจรปิดที่ลูกสาวนำไปร้องเรียนเพจดังนั้น คนละเรื่องกับสิ่งที่เป็นจริงขณะเกิดเหตุตนกำลังยื้อแย่งกุญแจรถจักรยานยนต์เพื่อที่จะขี่รถออกไปเคลียร์กับลูกเขยที่มีปัญหาหมางใจกัน ซึ่งเคยบอกกันว่ารถคันนี้ห้ามนำไปขนของหรือวิ่งงาน เพราะมันจะทำให้เกิดการพังเสียหาย โดยรถคันดังกล่าวได้ออกเป็นชื่อของลูกสาวตนเป็นคนซื้อเงินสด ซึ่งลูกสาวก็ไป ๆ มา ๆ อยู่กับลูกเขยบ้างมาบ้านบ้าง ลูกสาวตนหลงลูกเขย ตนจึงเป็นห่วงเพราะลูกสาวไปอยู่อย่างลำบาก ตนจึงจะขี่รถตามลูก ไม่อยากให้ลูกออกไปอยู่กับลูกเขยคนนี้เพราะต้องกัดก้อนเกลือกิน อยู่กับพ่อแม่ไม่เคยลำบาก ตนไม่อยากให้สังคมมองว่าตนเองทำร้ายเมีย ทำร้ายคนในครอบครัว อยากให้มองอีกมุมของตนบ้าง เพราะมุมกล้องมันบังเหมือนตนทำร้ายแต่จริง ๆ แย่งกุญแจรถกัน




ด้านนางบาหยัน อายุ 61 ปี ภรรยานายทม เล่าว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวสามีของตนจะนำรถจักรยานยนต์ขี่ออกไปเพื่อจะเคลียร์ใจกับลูกเขยและลูกสาว ตนเลยวิ่งเข้าไปห้ามและดึงกุญแจไว้จนล้มลงไปกับพื้น จากนั้นก็ได้มีการฉุดกระชากแย่งกุญแจกัน จนทำให้เห็นภาพดังกล่าวเหมือนถูกทำร้ายแต่มีรถกระบะบังเอาไว้ ซึ่งก็ไม่อยากให้สามีตนออกไปเดี๋ยวจะไปทะเลาะและทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งสามีก็ไม่ปกติด้วย ซึ่งแท้จริงไม่มีอะไรไปมากกว่านี้ ส่วนตอนนี้ทุกคนในบ้านก็กินยาคลายเครียดเพราะนอนไม่หลับ


อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจไม่ได้มีการดำเนินคดีกับนายทม เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีการทำร้ายกัน เนื่องจากทางภรรยาให้การยืนยันว่า ภาพที่ปรากฏในคลิปคือการยื้อแย่งกุญแจรถกันเท่านั้น

 

เฒ่าเปิดใจโต้ทำร้ายเมีย แฉลูกหลงผัวใส่ความ