จากกรณีเมื่อเวลา 21.00 น. (4 พ.ค.67) นางวิรัลพัชร อายุ 68 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชื่อดัง ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบหลังพบว่าลิ้นชักภายในบ้านมีร่องรอยการถูกงัดและมีร่องรอยคล้ายกับของมีคมฟัน ส่วนลูกกุญแจถูกเปลี่ยนทั้งสองลูกและล็อกปิดสนิท ซึ่งภายในลิ้นชักมีทรัพย์สินเป็นเงินสด 1 ล้านบาท ที่ใส่อยู่ในซองของธนาคาร แหวนเพชรประมาณ 20 วง มูลค่าวงละกว่า 1 ล้านบาท รวมราคาประมาณ 20 ล้านบาท ทองคำรูปพรรณรวมกว่า 50 บาท มูลค่าประมาณ 2100000 เม็ดหยก 7 เม็ด รวมมูลค่าประมาณ 1890000 บาท สร้อยเพชร 7 เส้น รวมมูลค่าราคาประมาณ 14 ล้านบาท พระเครื่องเลี่ยมทอง ซึ่งรวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกขโมยรวมประมาณกว่า 40 ล้านบาทนั้น

 

วันนี้ (6 พ.ค.67) ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนางสาวอัญชลี อายุ 47 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้าน เผยว่า ส่วนตัวแล้วตนทราบอยู่แล้วว่าคุณแม่มีทรัพย์สินเก็บไว้ตรงจุดนี้ เพราะแม่จะบอกไว้ แต่ไม่ได้ทราบว่ามีมูลค่าทั้งหมดเท่าไหร่ ส่วนกุญแจคุณแม่จะเป็นคนเก็บคนเดียว ไม่ได้มีคนยุ่ง

 

ตอนที่เกิดเรื่องตนคาดว่าน่าจะเป็นช่วงที่ตนไปต่างประเทศ เพราะตนชอบไปเที่ยวบ่อย อย่างกลางมีนาคม ตนก็ไปญี่ปุ่น กลับมาบินไปเชียงใหม่ต่อ ล่าสุดคือวันที่ 7-17 เมษายน ที่ผ่านมา ตนก็ไปเที่ยวเยอรมัน คาดว่าน่าจะเป็นช่วงที่คนร้ายเข้ามาขโมยของไป เพราะตนไม่อยู่บ้านหลายวัน แต่พอกลับบ้านมาตนก็ไม่ได้สังเกตพบความผิดปกติใดๆ

 

ตอนนี้ทางครอบครัวก็มีคนที่สงสัยอยู่บ้าง คิดๆจากความน่าจะเป็น แต่ก็ต้องรอหลักฐานต่างๆให้ครบถ้วน ก็คิดว่าน่าจะเป็นพนักงานร้านสปา ไม่น่าจะใช่คนนอก

 

โดยที่ร้านสปาจะมีพนักงาน 3 คนที่พักอาศัยอยู่ที่นี่เป็นประจำ และจะมีแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดบ้านใหญ่ 1 คน แต่เขาจะไปกลับ

 

มูลค่าทั้งหมดที่หายไปตอนนี้ตนยังตีราคาไม่ได้ เนื่องจากคุณแม่ต้องไปเช็กที่ธนาคารก่อนเพราะไม่แน่ใจเรื่องเครื่องประดับอะไรพวกนี้บางส่วนเก็บไว้ในลิ้นชักที่ถูกขโมยไป หรือเก็บไว้ที่ธนาคาร แต่รวมๆแล้ว มูลค่าของที่หายไปไม่ต่ำกว่า 10 ล้านแน่นอน

 

ซึ่งที่ตนคิดว่าเป็นคนในเพราะมีการงัดแม่กุญแจอันเก่าซึ่งเป็นสีทองทิ้งไป และพอเอาของออกไปเสร็จยังนำแม่กุญแจอันใกล้เคียงแค่เป็นสีเงินมาล็อกไว้ให้แทน เพื่อไม่ให้ผิดสังเกต ถ้าเป็นโจรทั่วไปคงไม่นั่งเอากุญแจมาเปลี่ยนให้ คงหนีไปเลย รวมถึงกล้องวงจรปิดก็ใช้ไม่ได้ คนที่รู้ก็มีเพียงแค่ตนในเท่านั้น

 

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ 1 ในพนักงานร้านสปา ซึ่งเป็นคนที่พักอาศัยประจำภายในร้านสปา โดยนางเดือนเต็ม หรือ ออย อายุ 45 ปี พนักงานร้านสปา เผยกับทีมข่าวว่า ตนเองมาทำงานที่นี่ได้ 2 เดือน โดยตนพึ่งย้ายจากสาขาที่เชียงใหม่มาอยู่ที่นี่ และพักอาศัยที่ห้องพักหลังร้านสปา ซึ่งอยู่ในอาณาเขตบ้านของเจ้าของร้าน

 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้ตนก็ไม่เห็นมีสิ่งใดผิดปกติ ไม่พบคนนอกเข้ามาภายในบ้านใหญ่เลย

 

ซึ่งตนก็เป็นคนที่สามารถเข้าออกบ้านใหญ่ได้จริง แต่ตนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินเขาเลย และไม่ทราบด้วยว่าเขามีทรัพย์สินอะไรอย่างไร

 

ตนก็ค่อนข้างกังวลใจ เพราะตนอยู่ในบ้านนี้ ตนก็คงถูกสงสัยอยู่แล้ว แต่ตนก็ได้มีการพูดคุยกับเจ้านายยืนยันว่าตนไม่ได้ขโมยแน่นอน และตนก็ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว ตำรวจก็ถามทั่วไป

 

ตนก็ตัวคนเดียวไม่มีครอบครัว สามี เพราะเลิกกันไปนานแล้ว ก็มาพักทำงานอยู่คนเดียว ตนก็มีการคุยกันกับพนักงานอีก 2 คน ที่พักอาศัยอยู่ที่นี่ ว่ามันเกิดได้ยังไง เพราะพวกตนอยู่กันทุกวัน ไม่ได้ยินเสียงอะไร หรือผิดปกติอะไรจริงๆ

เค้นสอบคนใน คาดเอี่ยวยกเค้า 40 ล้าน อึ้ง! ค่ายกลลิ้นชักถูกโจรสับขาหลอก