ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขยายผลทลายเครือข่ายค้าสัตว์ข้ามชาติ พบแหล่งพักรอส่งต่อกลุ่มชอบเลี้ยงสัตว์ป่าหายาก

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.มงคล พรานสูงเนิน รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส. / เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.วิญญู แจ่มใส ผกก.2 บก.ปทส. พร้อมด้วยพ.ต.ท.กรกช ยงยืน รอง ผกก.2 บก.ปทส., พ.ต.ต.นัธทวัฒน์ สุรนารถ สว.กก.2 บก.ปทส. และชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปทส. (นครนายก-ปราจีนบุรี-ฉะเชิงเทรา-สระแก้ว)

ร่วมกันจับกุม นายทองคำ อายุ 68 ปี โดยกล่าวหาว่า ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต , มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้(จระเข้น้ำจืด) โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 18 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 , ไม่แจ้งประกอบกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม(จระเข้) ตามมาตรา 78 (1) ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 , ครอบครองสัตว์ป่าควบคุมโดยมิได้รับอนุญาต สถานที่จับกุม ในพื้นที่หมู่ 3 ต.เนินหอม อ.เมือง จว.ปราจีนบุรี ตรวจยึดของกลาง ได้แก่
1. จระเข้น้ำจืด จำนวน 3 ตัว
2. เต่าดาวลายรัศมี จำนวน 173 ตัว
3. เสือปลา จำนวน 1 ตัว
4. นกกวัก จำนวน 1 ตัว

 



พฤติการณ์ จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. เข้าจับกุมขบวนการลักลอบขนสัตว์ป่าข้ามชาติได้ที่ จ.ชุมพร ซึ่งสามารถช่วยชีวิตสัตว์ป่าหายากได้แก่ ลีเมอร์ และเต่าดาวลายรัศมี ได้จำนวนกว่า 1,200 ตัว และสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวจำนวน 6 ราย มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้แล้วนั้น

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส. ได้ทำการขยายผลจากการจับกุมในคดีดังกล่าว จนสืบทราบมีผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ ได้นำสัตว์ป่ามาหลบซ่อนไว้เพื่อรอการจำหน่ายอยู่ในจังหวัดปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำหมายค้นศาลจังหวัดปราจีนบุรีเลขที่ 63/2567 ลงวันที่ 1 พ.ค.2567 เข้าตรวจค้น บ้านพัก ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โดยพบนายทองคำฯ อายุ 68 ปี แสดงตนเป็นเจ้าบ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานพร้อมด้วยแสดงหมายค้นเข้าทำการตรวจค้น ขณะตรวจค้น พบ จระเข้น้ำจืด จำนวน 3 ตัว, เต่าดาวลายรัศมี จำนวน 173 ตัว, เสือปลา จำนวน 1 ตัว และ นกกวัก จำนวน 1 ตัว อยู่ภายในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งสัตว์ดังกล่าวเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วพบว่าเป็นการกระทำผิดฐาน “ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต, มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ (จระเข้น้ำจืด) โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 18 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562, ไม่แจ้งประกอบกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม (จระเข้) ตามมาตรา 78 (1) ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และครอบครองสัตว์ป่าควบคุมโดยมิได้รับอนุญาต” จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปทส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 



จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายทองคำฯ ให้การว่าสัตว์ป่าที่ถูกตรวจพบในบ้าน เป็นของนายทวีพงษ์ฯ ลูกชายของตนที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ โดยตนไม่ทราบว่าลูกชายเอามาจากไหน ซึ่งสัตว์ทั้ งหมดนี้ลูกชายจะเป็นคนดำเนินการจัดการเอง