จากกรณีที่ช่อง 8 ได้นำเสนอข่าวในเรื่องที่มีผู้มาร้องเรียน ถึงกรณีเพื่อนบ้านที่ซื้อบ้านอยู่บริเวณปากซอยทางเข้าทั้งสองฝั่ง ได้ใช้พื้นที่บริเวณปากซอยทางเข้าบ้านของผู้พักอาศัยอาศัยอยู่ภายในซอย เป็นที่จอดรถส่วนตัว และยังมีการยกพื้นบริเวณที่จอดรถให้สูงกว่าพื้นถนนเดิม โดยอ้างว่ากลัวว่าน้ำจะท่วมบริเวณจุดดังกล่าวและจะทำให้น้ำเข้ารถนั้น ซึ่งหลังจากการนำเสนอข่าวไป ทางผู้ร้องเรียนและชาวบ้านที่อยู่ภายในซอย ได้ติดต่อประสานมายังผู้สื่อข่าว เพื่อที่จะขอบคุณเนื่องจากหลังจากที่นำเสนอข่าวไปนั้นทางด้านเจ้าของที่ดินบริเวณจุดที่มีปัญหาดังกล่าวนั้น ได้ลงพื้นที่มายังซอยดังกล่าว และได้จัดการคลี่คลายปัญหา ที่เกิดขึ้นระหว่างคู่กรณีทั้งสองฝ่าย

 

จากนั้นทีมข่าวจึงได้เดินทางไปพบกับ นายไชยยันต์ อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าของที่ดิน และเป็นผู้จัดการมรดก โดยได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า

 

“ในช่วงเมื่อวานตอนเช้าเวลาประมาณ 7.00 น. ตนได้ตื่นขึ้นมาและเหมือนมีอะไรดลจิตดลใจให้เปิดดูช่องข่าว ซึ่งตนก็เปิดไปที่ช่อง 8 ในตอนแรกได้พบกับข่าวในเรื่อง ว่าได้มีการยึดพื้นที่ทางเข้าออกซอยใช้เป็นที่จอดรถ และมีการเทปูนยกพื้น โดยในตอนแรกที่ตนดูตนก็รู้สึกว่าการกระทำดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้อง หลังจากนั้นตนจึงได้เห็นว่าทางฝ่ายคู่พิพาทมีปากเสียงกัน และมีการพูดถึงชื่อ เจ้าของที่ดิน ชื่อว่า นายประสิทธิ์ ตนจึงรู้สึกตกใจเพราะชื่อนั้นเป็นชื่อของพ่อตน หลังจากนั้น ตนจึงได้ดูรายละเอียดข่าวก็พบว่าบริเวณดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่ที่พ่อของตนเคยสร้างห้องแถวและแบ่งขาย เมื่อประมาณ 52 ปีที่แล้ว ตนจึงได้โทรหาพี่สาวและปรึกษากับพี่สาวว่าบริเวณที่ดังกล่าวนั้นเกิดปัญหาลักษณะนี้ขึ้นพี่สาวของตนจึงได้บอกให้ตนลงไปจัดการคลี่คลายปัญหา ให้กับชาวบ้านบริเวณดังกล่าวที่ได้รับความเดือดร้อน

 

โดยหลังจากนั้นตนตนจึงรีบลงพื้นที่โดยในทันที ซึ่งตนได้เดินทางไปถึงบริเวณดังกล่าวประมาณ 11.00 น. ตนจึงได้เดินดูบริเวณจุดที่มีการเทปูนยกพื้นและทำเป็นที่จอดรถ และได้เดินถ่ายรูปไว้ หลังจากนั้นตนจึงได้พบกับ น.ส.ธีรรัตน์ ซึ่งเป็นผู้ที่ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปยังสื่อมวลชน ตนจึงได้พูดคุยถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น และได้สอบถามกับชาวบ้านอีกหลายคนอยู่ภายในซอยจึงทราบว่าได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นตนจึงได้มาพูดคุยเจรจากลับบ้านที่เป็นคู่พิพาท และได้แสดงตัวว่าพ่อของตนเป็นเจ้าของที่ดินแห่งนี้ และบริเวณที่ที่เขามาทำที่จอดรถนั้นพ่อของตนมีความตั้งใจที่จะใช้ให้เป็น เส้นทางเข้าออกของคนที่อยู่ภายในซอย โดยจุดที่ทำเป็นที่จอดรถนั้นจะต้องทุบพื้นที่ดังกล่าวทิ้งและปรับสภาพพื้นที่ให้เป็นดังเช่นเดิม โดยการคุยในตอนแรกทางฝ่ายที่เป็นคู่พิพาทก็ได้มีการอ้างในเรื่องการทำพื้นที่บริเวณหน้าบ้านยื่นออกมาในถนนของคนภายในซอยซึ่งตนก็ได้ชี้แจงไปว่ามันไม่เกี่ยวกับความเดือดร้อนของชาวบ้าน แต่บริเวณจุดที่เขามาทำที่จอดรถนั้นชาวบ้านทุกคนเดือดร้อนเพราะถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น รถฉุกเฉินก็จะไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือคนที่อยู่ภายในซอยได้ ยิ่งถ้าเป็นเหตุไฟไหม้รถดับเพลิงก็ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวได้

 

โดยที่ที่ดินบริเวณดังกล่าวดังกล่าวนั้นตนมั่นใจว่าต้องเป็นชื่อของพ่อตนอย่างแน่นอนแต่ส่วนตัวแล้วตนไม่เคยเห็นโฉนดในพื้นที่บริเวณดังกล่าวดังกล่าวซึ่งหลังจากนี้ตนจะไปคัดโฉนดที่กรมที่ดิน และจะเข้าไปแสดงตัวต่อ สำนักงานเขตสาทร ว่าตนเป็นผู้จัดการมรดก และที่ดินบริเวณดังกล่าวนั้นเป็นของพ่อตน โดยหลังจากที่ตนจัดการปัญหานี้เรียบร้อยแล้วตนก็จะยกที่ดินบริเวณดังกล่าวนี้ให้เป็นพื้นที่ของความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร เพราะจะได้มีการดูแลพื้นที่ดังกล่าวให้ดีขึ้น

 

ซึ่งจากการที่ตนได้มาเห็นข่าวช่อง 8 นำเสนอ ในกรณีดังกล่าวนั้นส่วนหนึ่งตนคิดว่าน่าจะมาจากการดลจิตดลใจของพ่อของตนที่เป็นเจ้าของที่ดินและเป็นผู้สร้างห้องแถวดังกล่าวนั้นและแบ่งขาย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องแปลก เพราะจากการที่ตนคุยกับชาวบ้านที่อยู่ภายในซอย ซึ่งเป็นคนที่มาซื้อห้องแถวบริเวณดังกล่าว น่าจะเป็นช่วงที่สามหรือช่วงที่สี่แล้ว เพราะห้องแถวนี้ได้ขายมาเป็นเวลา 52 ปีแล้ว แต่หลังจากเกิดเหตุนี้ขึ้นมาตนก็ไม่ทราบเรื่องและอีกทั้งตนก็ไม่ทราบว่าที่ดินดังกล่าวดังกล่าวนั้นยังเป็นชื่อของพ่อตน ซึ่งตนมาทราบเนื่องจากผู้ที่ร้องเรียนได้ไปแจ้งสำนักงานเขตและไปคัดโฉนดกับกรมที่ดินซึ่งโฉนดของบ้านของเขาก็จะติดกับที่ดินดังกล่าวจึงทราบว่าเป็นชื่อของพ่อของตน โดยในการลงพื้นที่ครั้งนี้ตนต้องการที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าวให้คลี่คลายเมื่อชาวบ้าน ที่อยู่ภายในซอยจะไม่ได้รับความเดือดร้อนอย่างที่เกิดขึ้น

 

ทั้งนี้ในตอนนี้โซเชียลเป็นช่องทางสื่อสารที่เร็วและไวมาก อีกทั้งสื่อมวลชน โดยเฉพาะข่าวช่อง8 ก็ยังมีการนำเสนอที่ดี ถูกต้องและฉับไว จึงเป็นช่องทางที่ช่วยคลี่คลายให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ได้รับความเป็นธรรม รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก และตนขอชื่นชม”

 

ทางด้าน น.ส.พรสรัญ อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่พักอาศัยอาศัยอยู่ภายในซอยเช่นเดียวกัน โดยในช่วงเมื่อวาน ลูกชายของเจ้าของที่ดินบริเวณที่เกิดปัญหาได้เข้ามาพูดคุย ภายในบ้าน และสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า

 

“ ในช่วงเมื่อวานหลังจากที่ลูกชายเจ้าของที่ดิน บริเวณที่เกิดปัญหาได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบจุดที่บ้านคู่กรณีได้ทำเป็นจุดจอดรถและมีการเทปูนยกพื้นขึ้นมาเสร็จสิ้นแล้วนั้น เขาจึงได้เดินมาที่บ้านของตนและเข้ามาสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเดินมาพร้อมกับลูกชายของเจ้าของบ้านที่เป็นคู่กรณี โดยทางด้านลูกชายของเจ้าของบ้านที่เป็นคู่กรณีก็ได้กล่าวอ้างถึงบริเวณพื้นหน้าบ้านของตนซึ่งได้ต่อเติมขึ้นมาและยกพื้นสูงขึ้นมานั้น ว่าบริเวณดังกล่าวก็ต่อเติมลงมาในพื้นที่ของที่ดิน ที่เป็นปัญหาเช่นกัน เพราะฉะนั้นเขาก็สามารถทำที่จอดรถบริเวณดังกล่าวได้ ซึ่งในการกล่าวอ้างเช่นนี้ ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสำหรับสำหรับหน้าบ้านของตนนั้น ถ้าเป็นความประสงค์ของเจ้าของที่ดินที่จะต้องมีการปรับบริเวณหน้าบ้านของตนให้กลับมาเป็นเช่นเดิมเหมือนตอนแรกตนก็พร้อมที่จะทำให้และยินดีที่จะทำให้ ซึ่งในการต่อเติมลักษณะนี้ตนไม่ได้เป็นผู้ต่อเติมแต่เป็นเจ้าของเก่าที่เป็นผู้ต่อเติมขึ้นมาในลักษณะนี้อยู่แล้ว เพราะตนพึ่งมาซื้อ ห้องแถวนี้เมื่อประมาณสี่ปีที่แล้วก็ได้มีการต่อเติมลักษณะเช่นนี้ตนไม่ได้เป็นผู้ต่อเติมหรือก่อสร้างอะไรเพิ่ม ซึ่งถ้าให้ตนปรับปรุงหรือ หรือบริเวณหน้าบ้านตนตนก็ยินดีที่จะทำ

 

ในส่วนเรื่องการลงมติของคนภายในซอยในเรื่องการจอดรถของบ้านคู่กรณีหลังจากที่ทุบพื้นให้เป็นสภาพเดิมแล้วนั้น ในเรื่องนี้ทุกคนก็ได้ลงมติกันว่าไม่ยินดีที่จะให้บ้านคู่กรณีกลับมาจอดรถดังเช่นเดิมเนื่องจากจะกีดขวางทางเข้าออก และถ้ามีเหตุฉุกเฉินก็จะทำให้คนภายในซอยเดือดร้อน แต่พื้นที่ดังกล่าวนั้นจะใช้เป็นที่จอดรถชั่วคราวได้ในกรณีมารับหรือส่งของ แต่ไม่ใช่เป็นการที่มาจอดแบบถาวรอย่างที่เค้าทำ ซึ่งหลังจากลูกชายของเจ้าของที่ดินบริเวณดังกล่าวสอบถามมติของชาวบ้าน เสร็จเรียบร้อย เขาก็ได้แจ้งกับชาวบ้านว่าตัวของเขาเอง ก็ไม่เห็นด้วยในการบ้านหลังดังกล่าวจะนำรถมาจอดในลักษณะดังกล่าว เพราะพื้นที่ดังกล่าวนั้นพ่อของเขาต้องการให้เป็นพื้นที่เข้าออกของคนภายในซอย โดยยกให้เป็นพื้นที่ส่วนรวม และไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งนำมาเป็นพื้นที่ส่วนตัวส่วนตัว ในลักษณะดังกล่าว เพราะฉะนั้นจึงตรงกับความประสงค์ของพ่อ และตัวลูกชายเจ้าของที่ดินรวมถึงชาวบ้านที่อยู่ภายในซอยทั้งหมด”

เจ้าของที่ตัวจริงดูช่อง 8 ปรากฏตัวจัดการปัญหาคนยึดถนน ยันต้องรื้อทั้งหมด